ผู้เลี้ยงไก่ไข่บ่นราคาไข่ลดแต่อาหารไก่ไม่ลด

เชียงใหม่ 13 มิ.ย.- เจ้าของฟาร์มไก่ไข่เสนอรัฐบาลใหม่ดูแลราคาสัตว์ควบคู่กับการดูแลราคาไข่ไก่

พร้อมย้ำทำโครงการก๊าซภาพช่วยลดต้นทุนและแก้ปัญหาขัดแย้งกับชุมชน ด้านสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เร่งส่งเสริมนำขี้ไก่ผลิตก๊าซชีวภาพ คาดผลิตไฟฟ้าได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านหน่วยต่อปี

นายอร่าม อุประโจง เจ้าของฟาร์มห้วยน้ำริน หมู่บ้านก่อข่อย จังหวัดลำพูน
 
กล่าวว่า ขณะที่กรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือในการปรับลดราคาไข่ไก่หน้าฟาร์ม ซึ่งทำให้กำไรลดลง เพราะหากจะลดราคาแล้วก็ควรจะลดต้นทุนของผู้เลี้ยงลงด้วย โดยเฉพาะอาหารไก่ที่ปรับสูงขึ้นมาโดยตลอด จึงหวังว่าหากมีรัฐบาลชุดใหม่คงจะเข้ามาดูการลดต้นทุนทั้งระบบลงได้ ทั้งนี้ จากการเลี้ยงไก่ไข่กว่า 20 ปี ราคาไข่ไก่เพิ่มจาก 2 บาท เป็น 4 บาทต่อฟอง  แต่อาหารสัตว์ปรับสูงมาก เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปรับจาก 2 บาทเป็น 10 บาทต่อกิโลกรัม

นายอร่าม กล่าวว่า การเลี้ยงไก่มีปัญหาสิ่งแวดล้อมและกลิ่นเหม็นจากมูลไก่ในฟาร์ม
 
มีชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียน ทางฟาร์มฯ จึงได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการผลิตก๊าซชีวภาพในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ กับทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)และสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ (ERDI) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2549 ทำให้ลดปัญหากลิ่นฯ ได้ก๊าซชีวภาพไปผลิตกระแสไฟฟ้าในฟาร์ม ทดแทนแอลพีจี และยังได้ปุ๋ยซึ่งเป็นผลพลอยได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ฟาร์มไก่ไข่ 25,000 ตัว ขนาด 500 ลูกบาศก์เมตร สามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้วันละ 127 ลูกบาศก์เมตร พลังงานทดแทนที่ผลิตได้

ได้ทั้งไฟฟ้าทำให้ประหยัดค่าไฟในฟาร์ม จากเดิมที่เสียค่าไฟฟ้าเดือนละประมาณ 10,000 บาท ลดลงเหลือ 4,600 บาท รวมทั้งปีลดค่าไฟฟ้าได้ 64,800 บาท และยังนำไปใช้เป็นก๊าซแอลพีจีได้อีก โดยทางฟาร์มฯ ได้เดินท่อก๊าซแบ่งให้กับชาวบ้านจำนวน 77 ครัวเรือนได้ใช้ประโยชน์ ช่วยให้แต่ละครัวเรือนลดค่าใช้จ่ายในการซื้อก๊าซแอลพีจีได้เดือนละ 300 บาท คิดเป็นเงินที่ทั้งชุมชนลดได้ทั้งปี รวม 277,200 บาท

นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการ สนพ. กล่าวว่า ประเทศไทยมีการนำน้ำเสียและของเสียจากฟาร์มปศุสัตว์มาแปรรูปเป็นก๊าซชีวภาพ
 
เพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทนมาตั้งแต่ปี 2538 โดยกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ร่วมกับ ERDI ดำเนินโครงการส่งเสริมการผลิตก๊าซชีวภาพในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ขนาดกลาง-ใหญ่รวม 4 ระยะแล้ว โดยปัจจุบันมีฟาร์มเข้าร่วมโครงการฯ กว่า 530 ฟาร์ม สามารถรองรับของเสียปศุสัตว์คิดเป็นสุกรเทียบเท่า 4.3 ล้านตัว สามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้สูงสุดประมาณ 155 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี      ซึ่งสามารถทดแทนพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 556 ล้านบาท และสามารถลดการปล่อยก๊าซมีเทนสู่ชั้นบรรยากาศได้ไม่น้อยกว่า 1.4 ตันคาร์บอนเทียบเท่าต่อปี

จากการสำรวจศักยภาพของฟาร์มเลี้ยงไก่ทั่วประเทศพบว่า มีจำนวนไก่เนื้อและไก่ไข่ที่เลี้ยงอยู่ในฟาร์มถึงประมาณ 280 ล้านตัว

ซึ่งมีศักยภาพในการผลิตก๊าซชีวภาพได้ไม่น้อยกว่า 462 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี หากนำก๊าซชีวภาพจำนวนดังกล่าวไปผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าจะสามารถผลิตพลังงานทดแทนในรูปกระแสไฟฟ้าได้ถึง 554 ล้านหน่วยต่อปี ดังนั้น ระหว่างปี 2553 - 2556 กองทุนฯ จึงได้สนับสนุนงบประมาณ 118 ล้านบาท ให้ ERDI ดำเนินโครงการส่งเสริมการผลิตก๊าซชีวภาพในฟาร์มเลี้ยงไก่ ระยะที่ 1 โดยปัจจุบันมีผู้ได้รับการคัดเลือกและยืนยันการเข้าร่วมโครงการแล้ว 16 ราย ตั้งเป้าผลิตพลังงานทดแทนไฟฟ้าได้สูงสุดปีละ 10 ล้านหน่วย คิดเป็นมูลค่า 34 ล้านบาท. - สำนักข่าวไทย