สตรีชาวญี่ปุ่นที่สูญหายไปนานกว่า 12 วันบนเทือกเขาหิมาลัยในเขตประเทศเนปาล เผยว่าเธอต้องกินหน่อไม้และดื่มน้ำเพื่อประทังชีวิต
นางมากิโกะ อิวาฟูชิ วัย 49 ปี เดินทางออกจากที่พักของเธอเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเดินป่าไปยังทะเลสาบแห่งหนึ่งที่เมืองโกไสคุนดา ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาฮินดู ซึ่งตั้งอยู่บนระดับความสูง 4,380 เมตร เธอหลงทางในป่าทึบก่อนที่จะถูกพบตัวโดยนักจาริกแสวงบุญที่พบเธอโดยบังเอิญ
อิวาฟูชิกล่าวต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงกาฏมัณฑุว่า ทางที่เธอเดินดูชัดเจนดีและคิดว่าตนเองไม่น่าจะหลงทาง ต่อมาเธอเริ่มสับสนและเริ่มหลงทาง เธอเก็บแรงไว้โดยไม่ขยับตัวใดๆเป็นเวลากว่า 2 วัน และอาศัยอยู่ในถ้ำเล็กๆ ทั้งนี้เธอกินใบไม้ หน่อไม่้ และน้ำเพื่อประทังชีวิต โดยเธอคิดถึงอาหารที่เธออยากกิน หากว่าตนเองรอดชีวิต
นางอิวาฟูชิ ซึ่งเป็นอดีตผู้ค้าอัญมณี และออกมาเป็นนักเดินป่าเต็มตัว ดูมีอาการเหนื่ออ่อนและมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่เท้า แต่ไม่พบอาการผิดปกติใดๆอีก เธอเปิดเผยว่าตนเองดีใจมากที่ได้ยินเสียงของผู้จาริกแสวงบุญ และสัญญาว่าจะไม่เดินป่าคนเดียวอีก
ขณะที่มีรายงานว่า หน่วยกู้ภัยที่เนปาลกู้ร่างของนางมาซูเอะ โยชิดะ นักปีนเขาชาวญี่ปุ่นวัย 63 ปีที่ถูกหิมะถล่มทับระหว่างปีนเขาในเขตราชวาทางภาคกลางตอนเหนือของเนปาล
เนปาลเป็นจุดหมายของนักเดินป่าและนักปีนเขาจำนวนมากในแต่ละปี เนื่องจากเป็นที่ตั้งของยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก 8 จาก 14