เมื่อ 10 มิ.ย. เอพีรายงานว่า ในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ จะเป็นวันครบรอบ 3 เดือนเหตุการณ์แผ่นดินไหว สึนามิ และวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่นนั้น น่าเป็นห่วงอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพจิต เพราะเวลาผ่านมากว่า 3 เดือน หลายรายยังไม่มีทางออกในเรื่องที่อยู่อาศัย ขณะที่ญาติพี่น้องผู้สูญหายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะพบศพ ซึ่งตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 15,401 ราย สูญหาย 8,146 คน และคาดว่าน่าจะเสียชีวิตทั้งหมด
รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาแสดงความเป็นห่วง และเตือนว่า ผู้ประสบภัยต้องได้รับการดูแลสุขภาพจิตโดยด่วน เพราะหลายรายเสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะฆ่าตัวตาย โดยทางการออกเอกสารแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันการฆ่าตัวตาย มีเนื้อหาอธิบายอาการผู้ที่อยู่ในข่ายต้องดูแลเป็นพิเศษคือ มีอาการช็อก เครียด ซึมเศร้า บางรายอาจรู้สึกผิดที่หนีเอาชีวิตรอดมาได้เพียงลำพัง ขณะที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอัตราผู้กระทำ อัตวินิบาตกรรมสูงอยู่แล้ว คือ 25 รายต่อพลเมือง 1 แสนคน ขณะที่สหรัฐอยู่ที่ 11 ราย จากประชากร 1 แสนคน
ด้านเอเอฟพีรายงานว่า แม้รัฐบาลญี่ปุ่นเร่งมือฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย แต่ถึงวันนี้มีพื้นที่เพียงร้อยละ 10-20 เท่านั้นที่ปรับปรุงพื้นที่ได้แล้ว ที่เหลือยังคงจมอยู่ใต้เศษซากความเสียหาย ชาวญี่ปุ่นในศูนย์ช่วยเหลือแสดงความไม่พอใจรัฐบาล และตำหนินายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรี บริหารงานกู้วิกฤตไม่มีประสิทธิภาพ
นางโทเมอิ ชิกะ แม่บ้านวัย 59 ปี ที่ต้องอพยพหนีภัยรังสี กล่าวว่า ผิดหวังกับฝ่ายบริหารของประเทศที่มัวแต่เล่นการเมือง ไม่สนใจชาวบ้านอย่างแท้จริง และไม่มีอะไรคืบหน้าตั้งแต่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบ้านที่ต้องทิ้งมา ซึ่งทางการยังไม่มีกำหนดเวลาให้กลับเข้าไปได้
นาย คัตซึโนบุ ซากุราอิ ผู้ว่าราชการจังหวัดมินามิโซมะ ตำหนิรัฐบาลว่าตื่นกลัวเกินกว่าเหตุ กรณีสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่รัศมีรอบๆ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะมากถึง 20-30 ก.ม. ซึ่งถือว่ามากเกินความเป็นจริง