ยกเครื่องโครงสร้างน้ำมันปาล์ม

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า

อาจมีการพิจารณาปรับโครงสร้างสูตรการคำนวณราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวดใหม่ เพื่อปรับลดราคาขายปลีกลง เนื่องจากพบสัดส่วนการคำนวณต้นทุนและราคาขายที่ซ้ำซ้อนอยู่ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายการผลิต ค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร และส่วนเหลื่อมที่รวมกันกว่า 8.50 บาท หากปรับลดได้จะทำให้ราคาขายปลีกลดลงตามมาด้วย
   
ปัจจุบันการคำนวณราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มขวด 47 บาท มาจากฐานราคาผลปาล์ม กก.ละ 5.20 บาท หรือราคาน้ำมันปาล์มกก.ละ 32.56 บาท
 
โดยคิดแยกแบ่งเป็นต้นทุนวัตถุดิบน้ำมันปาล์ม 30.93 บาท ค่าภาชนะบรรจุ 4.50 บาท ค่าใช้จ่ายผลิต 2 บาท รวมต้นทุนผลิตจริง 37.43 บาท แต่ยังต้องบวกค่าใช้จ่ายขายและบริหารอีก 3 บาท ส่วนเหลื่อม 3.50 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% รวมเป็น 47 บาท สำหรับสถานการณ์ปาล์มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประเมินว่า ขณะนี้มีผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการ จนมีสต๊อกเหลือเก็บสูงกว่าระดับปกติค่อนข้างมาก ขณะที่ราคาผลปาล์มก็กลับเข้าสู่ภาวะกลไกตลาดแล้ว โดยปี 54 คาดว่าจะมีผลผลิตรวมถึง 8.939 ล้านตัน โดยเฉพาะช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.54 เป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากสุดเดือนละ 1 ล้านตัน ส่งผลให้ตัวเลขสต๊อกปาล์มเดือน พ.ค. น่าจะสูงถึง 2.12 แสนตัน และเดือน มิ.ย. จะเพิ่มเป็น 2.64 แสนตัน สูงกว่าสต๊อกปกติที่ 2 แสนตัน และหลังจากนั้นคาดว่าผลผลิตจะออกมาต่อเนื่อง ทำให้สต๊อกปาล์มจะเพิ่มขึ้นจนถึง 3.81 แสนตันในช่วงสิ้นปี
   
นอกจากนี้ยังพบว่าเดือน เม.ย. ประเทศไทยมีน้ำมันปาล์มเหลือเพียงพอต่อการส่งออก โดยสามารถส่งออกได้ถึง 19,741 ตัน

แยกเป็นน้ำมันปาล์มดิบ 14,024 ตัน และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 5,717 ตัน ซึ่งสะท้อนว่าปัญหาน้ำมันปาล์มได้คลี่คลายสู่ภาวะปกติ จึงเห็นควรให้ยกเลิกมาตรการกำหนดราคารับซื้อน้ำมันปาล์ม รวมถึงจ่ายชดเชยให้โรงสกัดลิตรละ 1.79 บาท เพื่อปล่อยไปให้มีราคาซื้อขายจริงเป็นไปตามกลไกตลาด เพราะการคงมาตรการไม่ได้ทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง เนื่องจากถูกกลุ่มบริษัทกดราคารับซื้ออยู่ พร้อมกับเสนอทางเลือกให้รัฐบาลกำหนดราคาซื้อขั้นต่ำแทน บวกกำไรให้ชาว สวนปาล์ม 25-30% แทน
   
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มว่า ในเดือน มิ.ย.54 ยังได้รับร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มว่า ไม่สามารถจำหน่ายผลปาล์มได้ตามราคาที่รัฐกำหนดไว้ โดยขายได้เพียงกก.ละ 4-5 บาทเท่านั้น เนื่องจากโรงงานอ้างว่า ปริมาณน้ำมันในผลปาล์มมีน้อยกว่ามาตรฐาน 17% อีกทั้งผลปาล์มยังมีเพียงพอต่อความต้องการของตลาดแล้ว ซึ่งไม่เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติกำหนด.