กกต.มีมติสั่งปลดป้ายอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา

กกต.มีมติเสียงข้างมาก สั่ง กกต.กทม. มอบผู้ว่าฯ กทม.ดำเนินการ ปลดป้าย "อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา" ชี้ผิดกฎหมายเลือกตั้ง-พ.ร.บ.ความสะอาดฯ

วันนี้ (8 มิ.ย.) นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวหลังประชุม ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณากรณีคำร้องเรื่องป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อฟ้าดิน ที่มีข้อความรณรงค์โหวตโน เพื่อชวนให้ประชาชนอย่าไปลงคะแนนให้กับพรรคใด ๆ โดยใช้ภาพสัวต์ต่าง ๆ เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งทาง กกต.ได้พิจารณาแล้วพบว่าป้ายดังกล่าวเป็นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จึงเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงที่ กกต.จะพิจารณา

นายสมชัย กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าป้ายดังกล่าวผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มา

ซึ่ง ส.ว.มาตรา 60 ประกอบมาตรา 59 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใดปิดประกาศ หรือติดแผ่นป้าย เกี่ยวกับการเลือกตั้งในสาธารณะสถาน ซึ่งเป็นของรัฐ หรือในที่ของเอกชน โฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง ทางวิทยุกระจายเสียง หรือวิทยุโทรทัศน์ หรือกระทำกิจการอื่น ที่ กกต.กำหนดให้รัฐสนับสนุน และในวรรคสอง ที่ห้ามปิดประกาศหรือติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่มีขนาดหรือจำนวนไม่เป็นไปตามที่ กกต.กำหนด ซึ่งมีความผิดตามในการฝ่าฝืนระเบียบ กกต.ที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการหาเสียงข้อ 9 ซึ่งหากเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองก็อาจจะเข้าข่ายมาตรา 237 ของรัฐธรรมนูญได้

นายสมชัย กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ทาง กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า กกต.กทม.

ซึ่งเป็นผู้ดูแลในพื้นที่มีป้ายต้องไปดำเนินการทำหนังสือไปถึงพรรคการเมือง และผู้ว่าฯ กทม.ให้ดำเนินการปลดป้ายทุกขนาดออก โดยเมื่อปลดป้ายออกไปแล้วความผิดก็จะยังคงไม่ถูกลบล้างไปด้วย เพราะได้มีการร้องเข้ามาให้ กกต.สืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้ จึงต้องดำเนินการสอบสวนว่ามีใคร หรือพรรคการเมืองใดกระทำผิด ซึ่งการดำเนินการปลดป้ายเป็นหน้าที่ของ กทม.จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ หากไม่ดำเนินการจะมีความผิดโทษฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

แหล่งข่าวกล่าวถึงกรณีที่กรมการปกครองจะเรียกประชุมนายอำเภอและปลัดอำเภอทั่วประเทศในวันที่ 20-21 มิ.ย. ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องปกติของกรมการปกครองที่ปฏิบัติมาทุกคร้ังที่มีการเลือกตั้ง แต่การประชุมครั้งนี้ก็ต้องดูตามข้อเท้จจริงว่ามีการใช้อำนาจหน้าที่ ทำหรือเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองใดหรือไม่ โดยทาง กกต.จะมีสายข่าวเข้าไปสังเกตการณ์ด้วย.