เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน สำนักข่าวซินหัวและเบอร์นามา รายงานว่า สมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ยืนยันระหว่างการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในวันเดียวกันนี้ว่า กัมพูชาไม่ถอนคดีใดๆ ที่ยื่นคำร้องต่อศาลโลกให้ตีความคำพิพากษาเมื่อปี 2505 อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะต้องสิ้นเปลืองเท่าใด หรือไม่ว่าในยุคของรัฐบาลไทยชุดนี้ หรือชุดต่อไปก็ตามที นอกจากนั้นยังปฏิเสธข้อเรียกร้องของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย ที่ขอให้กัมพูชาหันมาหารือกับไทยเพื่อร่วมกันจัดทำแผนบริหารจัดการเพื่อพัฒนาพื้นที่ขัดแย้ง 4.6 ตารางกิโลเมตรด้วย
"เป็นไปไม่ได้ที่จะมีแผนบริหารจัดการเขาพระวิหารร่วมกับทางฝ่ายไทย กัมพูชาไม่เคยรู้ ไม่เคยได้ยินว่ามีพื้นที่ขัดแย้ง หรือมีพื้นที่ทับซ้อนใดๆ กับประเทศไทย กัมพูชาไม่รู้ว่า 4.6 ตารางกิโลเมตรที่ว่านี้อยู่ตรงไหน" นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าว
สมเด็จฯฮุน เซน ยังระบุด้วยว่า กัมพูชาไม่สามารถถอนทหารของตนเองจากดินแดนของตัวเอง เพื่อแลกกับการเข้ามาประจำการของนักสังเกตการณ์จากอินโดนีเซียเพียงไม่กี่คนแน่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ยอมรับว่า เคยพบกับ พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบกของไทยระหว่างที่ พล.อ.วิชิตเดินทางมาร่วมพิธีสมรสของบุตรชาย นายเตีย บัน รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาในกรุงพนมเปญ แต่ไม่เคยพูดคุยหารือกันถึงเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับปัญหาพระวิหาร
"พล.อ.วิชิตต้องออกมาชี้แจงคำให้สัมภาษณ์ให้กระจ่าง ไม่อย่างนั้นก็จะทำลายคุณค่าในตัวของ พล.อ.วิชิตเอง" นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุ
นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงว่า ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้
กระทรวงการต่างประเทศจะมีหนังสือไปยังสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เพื่อปฏิเสธทุกข้อกล่าวหากรณีที่กัมพูชากล่าวหาว่าฝ่ายไทยละเมิดน่านฟ้าและเตรียมโจมตีกัมพูชา โดยชี้แจงข้อเท็จจริง และยืนยันแนวทางปฏิบัติทางทหารของไทย ที่ต้องรักษาระยะการบินใกล้เส้นแขตแดนอย่างเคร่งครัด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
