ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯประทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ พร้อมถุงยังชีพเยียวยาชาวบ้านที่รับผลกระทบเรือน้ำตาลล่ม ด้านผวจ.พระนครศรีอยุธยาสั่งเสริมแนวกั้นที่เสียหาย รอน้ำลดค่อยกู้ซากเรือ ส่วนคุณภาพน้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
มีรับสั่งให้ ดร.มนัส โนนุท ผู้อำนวยการมูลนิธิมิราเคิลออฟไลท์ ลงพื้นที่เยียวยาจิตใจชาวบ้าน พร้อมกับพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน นอกจากนี้ยังจะประทานถุงยังชีพให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ด้วย โดยในช่วงเช้า นางวาสินี ผิวผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำถุงยังชีพมอบให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนบริเวณม.2 ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมเงินสดจำนวนหนึ่งเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น
ส่วนการกู้เรือ เจ้าหน้าที่ที่ทำการกู้เรือได้ทำพิธีบวงสรวงขอขมาพระแม่คงคาและแม่ย่านางเรือ ก่อนเริ่มกู้เรือ
โดยนำเครื่องสูบน้ำ จำนวน12 เครื่องเตรียมสูบน้ำออกจากเรือบรรทุกน้ำตาล แต่เนื่องจาก ล่าสุดพบแนวกำแพงป้องกันน้ำกัดเซาะตลิ่งซึ่งทำด้วยไม้ยูคาลิปตัสตลอด 40 เมตร ถูกน้ำกัดเซาะด้านใต้จนเอน และเสาที่ปักลงไปในดินเพื่อยึดเป็นแนวค้ำยันทรุดตัวตามลงไปด้วยโดยกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากได้ซัดแนวกำแพงป้องกันการกัดเซาะตลิ่งพังทรุดตัวลงไปด้วยจึงต้องชะลอการดำเนินการกู้เรือไปออกไปก่อน
นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถกู้เรือขึ้นมาได้ เนื่องจากปริมาณน้ำยังมากและกระแสน้ำแรง
แม้จะประสานกรมชลประทานไปก่อนหน้านี้ ให้ลดปริมาณการปล่อยน้ำลงมา แต่ยังไม่ถึงจุดปลอดภัยที่เจ้าหน้าที่จะลงไปดำเนินการกู้เรือขึ้นมาได้ วันนี้จึงจะประสานกับเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานอีกครั้ง เพื่อให้ปริมาณน้ำลดลง เพราะหากน้ำไม่ลดจะไม่สามารถกู้เรือขึ้นมาได้ ส่วนเขื่อนที่กั้นตลิ่งจะกันกระแสน้ำต้องเร่งเสริมความแข็งแรงให้มากกว่าเดิม ส่วนเรื่องคุณภาพน้ำนั้น เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ล่าสุดตรวจวัดค่าน้ำตาลที่ออกจากเรือมีค่าเป็น 0 ส่วนมวลน้ำตาลที่ลงมาถึงนนทบุรี และ กทม.คาดว่า จะทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง 2 วัน.