รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า
หลังจากที่กระทรวงการคลังได้เปิดโครงการลดภาระดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่เริ่มเปิดให้ประชาชนยื่นขอสินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-31 ส.ค.นี้ วงเงิน 10,000 ล้านบาท ผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ 3 แห่งคือ ธนาคารออมสิน 4,500 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทย 4,500 ล้านบาท และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) 1,000 ล้านบาท ปรากฏว่า ในวันแรกนี้ มีประชาชนทยอยมาใช้บริการตามสาขาต่าง ๆ ไม่มาก
ทั้งนี้ปรากฏว่าในวันแรกนี้มีประชาชนเข้ามายื่นขอเข้าร่วมโครงการกับธนาคารกรุงไทยสูงที่สุดกว่า 3,000 ราย เฉลี่ยหนี้รายละ 70,000-100,000 บาท ซึ่งถือว่าไม่มากนัก และมีผู้ที่ติดต่อเข้ามาสอบถามรายละเอียดโครงการอีกกว่า 1,000 ราย
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า จากจำนวนคนที่มาขอกู้วันแรกที่สำนักงานใหญ่
คาดว่าจะมีกว่า 200 คน เนื่องจากโครงการดังกล่าวทำร่วมกันกับ 3 ธนาคาร ประชาชนจึงสามารถทยอยและกระจายไปยื่นกู้ตามสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศได้ อีกทั้งมีเวลาให้ยื่นขอกู้ได้ถึง 3 เดือน ทั้งนี้มองว่าจำนวนประชาชนที่ไม่มากนั้น อาจเป็นเพราะธนาคารพาณิชย์เจ้าของบัตรเครดิตเดิม อาจลดดอกเบี้ยให้ลูกค้า เพื่อดึงลูกค้าบัตรเครดิตเอาไว้ โดยในส่วนของธนาคารออมสินนั้น หากผู้ขอกู้ใหม่ชำระหนี้ตามกำหนดในช่วง 1 ปี ธนาคารร่วมกับบริษัทบัตรเครดิตกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี จะทำบัตรเครดิตให้ลูกค้าเพื่อใช้จ่ายในยามจำเป็น
“วันแรกนี้ มีผู้สนใจยื่นรีไฟแนนซ์ที่ธนาคารออมสินทั้งสิ้น 800 ราย รวมวงเงิน 110 ล้านบาท จาก 466 สาขาทั่วประเทศ”
นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธอท. กล่าวว่า หลังจากเปิดให้ประชาชนติดต่อขอกู้สินเชื่อบุคคลเพื่อรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตจากสถาบันการเงินอื่น ซึ่ง ธอท. มีวงเงิน 1,000 ล้านบาทนั้น มีประชาชนมาติดต่อขอกู้วันแรก 700 ราย วงเงินรวม 100 ล้านบาท และสามารถอนุมัติสินเชื่อแล้ว 40 ราย
“เพราะธนาคารมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาให้สินเชื่อจากโครงการเดิมที่ทำก่อนหน้านี้อยู่แล้ว จึงคาดว่าภายใน 2 สัปดาห์ น่าจะมีผู้ขอสินเชื่อเต็มวงเงิน 1,000 ล้านบาท เฉลี่ยมีผู้ขอกู้รายละ 150,000 บาท แต่หากมีผู้ขอกู้เกิน 300,000 บาท ตามนโยบายกระทรวงการคลัง ธอท. พร้อมที่จะนำส่วนเกินไปเข้าโครงการเดิมที่ ธอท. ทำอยู่ได้ โดยมีเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 6 ปี และใช้บุคคลค้ำประกัน”
อย่างไรก็ตาม หากลูกค้ามาขอกู้เพื่อรีไฟแนนซ์ ในส่วนวงเงินที่เกิน 300,000 บาท ธอท. จะรับปล่อยสินเชื่อในส่วนของธนาคาร
ซึ่งมีโครงการรับรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตอยู่แล้ว และโครงการครั้งนี้จะพยายามพิจารณาอนุมัติสินเชื่อภายใน 1 วัน แจ้งผลให้ทราบภายใน 3 วัน เพื่อให้ลูกค้ารู้ผลการรีไฟแนนซ์โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการฯ ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันคือ เป็นหนี้ที่มีสถานะปกติ ชำระหนี้ตามกำหนดตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยให้กู้ไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน แต่ไม่เกิน 300,000 บาท คิดดอกเบี้ยเงินกู้ 10% ผ่อนชำระ 1-3 ปี ส่วนผู้ที่มีบัตรเครดิตหลายใบ สามารถเลือกเก็บบัตรเครดิตไว้ใช้ในยามจำเป็นได้ 1 ใบ แต่ต้องมีหนังสือแสดงเจตจำนงกับธนาคารว่า จะไม่ก่อหนี้ที่เป็นภาระบัตรเครดิตเพิ่มเติมอีกในช่วง 1 ปี ไม่เช่นนั้นธนาคารจะไม่อนุมัติให้
นายธีรศักดิ์ กล่าวว่า ล่าสุดนี้ ธอท. ได้ยกหนี้ให้ลูกค้าวินัยดียากจนให้แก่ ด.ญ.ชนิสรา พุทธสงฆ์ อายุ 13 ปี
เนื่องจากบิดาเสียชีวิตตั้งแต่ปี 49 ต่อมามารดาเสียชีวิตในปี 53 ซึ่งได้ขอกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอท. สาขาหาดใหญ่ และชำระหนี้ตรงตามกำหนดตลอด ทำให้เด็กต้องไปอาศัยกับญาติ ไม่มีรายได้แน่นอน คณะกรรมการ ธอท. จึงได้พิจารณายกหนี้ให้ ด.ญ.ชนิสรา ซึ่งเป็นทายาท วงเงิน 464,270 บาท นับเป็นการช่วยเหลือตามหลักอิสลาม เพื่อไม่ให้ทายาทรับภาระหนี้ที่ตกกับบุคคลภายหลัง เนื่องจากธนาคารดำเนินกิจการที่ไม่ได้หวังผลกำไรเป็นหลัก
“แนวทางดังกล่าว อาจทำให้ธนาคารอื่นยกหนี้ลักษณะเดียวกันหากมีปัญหาลูกค้าเสียชีวิต อาจลดภาระไม่ต้องซื้อประกันสินเชื่อ และธนาคารพร้อมให้การช่วยเหลือลูกค้าทุกศาสนา ”.