กรมบัญชีกลางให้ขรก.เบิกค่ายาสมุนไพรที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติเพิ่มเป็น 71 รายการ
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข ว่า ที่ประชุมได้รับรายงานว่า กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงได้หารือ ในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยวิธีการแพทย์แผนไทยในระบบสวัสดิการข้าราชการ จากเดิมที่อนุมัติให้เบิกจ่ายได้เฉพาะยาสมุนไพรที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ 19 รายการโดยเพิ่มเติมยาสมุนไพรไทยอีก 52 รายการที่ได้บรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ รวมเป็น 71 รายการ นอกจากนี้ยังอนุมัติให้เบิกรวมกับตำรับยาที่ปรุงขึ้นเอง 2 ประเภท คือ ยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณที่อยู่นอกบัญชียาหลักแห่งชาติ 21 รายการ อาทิ มหาหิงค์ และยาสมุนไพรที่ปรุงขึ้นโดยแพทย์แผนไทย เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยเฉพาะราย ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1พ.ค.ที่ผ่านมา
ด้าน พญ.วิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าในโรงพยาบาลส่วนใหญ่ยังใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรคไม่มาก โดยในปี 2553 มีการใช้ยาสมุนไพรไม่เกิน 3% ของการเบิกจ่ายยาทั้งหมด เชื่อว่าหลังจากที่กรมบัญชีกลางเปิดกว้างให้เบิกจ่ายยาสมุนไพรมากขึ้น จะทำให้จำนวนการใช้ยาสมุนไพรในโรงพยาบาลประจำจังหวัดและโรงพยาบาลศูนย์ เกิน 5% ขณะที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบาลจะขยับไปเกิน 10%
พญ.วิลาวัณย์ กล่าวว่า เดิมกรมบัญชีกลางได้ควบคุมการเบิกจ่ายยาสมุนไพรไทย โดยให้เบิกเฉพาะยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติเท่านั้น ต่อมาในปี 2553 ได้อนุโลมให้เบิกจ่ายยาสมุนไพรที่อยู่ในบัญชีเภสัชตำรับของแต่ละโรงพยาบาลได้ และในปี 2554 ได้อนุมัติตามมติดังกล่าวเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามการอนุมัติดังกล่าวจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้และพัฒนายาสมุนไพรของไทย โดยกรมตั้งเป้าไว้ว่า อยากให้การใช้ยาสมุนไพรขยับไปอยู่ที่ 30% ของมูลค่าการใช้ยาทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันมูลค่าการใช้ยาแผนปัจจุบันประมาณแสนล้านบาทต่อปี.