จากกรณี ด.ช.ธนกร หรือน้องต๊ะ วงศ์รัตนะ อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านทองคำพิงวิทยา อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ
ถูกนำตัวส่ง รพ.มหาราชนครราชสีมา เนื่องจากรูปร่างอ้วนเกินวัย ใช้ชีวิตประจำวันด้วยความลำบาก โดยเบื้องต้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรับตัวไปรักษา และคาดว่าจะต้องนอนที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อหาทางให้ลดน้ำหนัก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 พ.ค. นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอดและโรคระบบทางเดินหายใจ เปิดเผยว่า
เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เข้าตรวจอาการนอนหลับของ ด.ช.ธนกร หลังจากเข้ามารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยทางนักโภชนาการได้จัดอาหารควบคุมทั้งปริมาณ ไขมันและน้ำตาล 3 มื้อ ตลอดระยะเวลาที่อยู่โรงพยาบาล นอกจากนี้มีอาหารเสริม อาทิ นมและขนมปังให้รับประทานด้วย รวมทั้งให้เดินออกกำลังกาย ยกแขนขา ล่าสุดน้ำหนักตัวน้องต๊ะ ลดลงถึง 5 กิโลกรัมจากเดิม 123 กิโลกรัม เหลือ 118 กิโลกรัม และจะลดน้ำหนักให้ได้ 12 กิโลกรัมภายใน 3 เดือน
นพ.อนุชิต กล่าวต่อว่า น้องต๊ะ มีโรคคู่กันกับความอ้วนคือ โรคการนอนกรน โดยทางมารดาแจ้งว่า น้องต๊ะกรนเสียงดังมาก
และบางช่วงเวลา มีอาการนอนหลับลึกและไม่หายใจเป็นบางครั้ง เกรงว่าจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ จึงนำตัวมาตรวจการนอนหลับ เพื่อตรวจเช็กระดับการนอนกรน และหาแนวทางการรักษาควบคู่กับโรคอ้วน โดยผลการตรวจร่างกายเบื้องต้น พบว่าน้ำหนักตัวมาก ส่งผลให้เวลานอนท่อต่าง ๆ ในระบบทางเดินหายใจ จะตีบตัน ทำให้การหายใจค่อนข้างจะติดขัด นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพแล้ว “ในอนาคตหากยังไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีอาจจะส่งผลถึงชีวิตได้ ดังนั้นคณะแพทย์จึงตัดสินใจนำตัวน้องต๊ะมาตรวจการนอนหลับ เพื่อรักษาได้อย่างทันท่วงที เนื่องจากน้องต๊ะนอนกรนเสียงดัง จะทำให้มีออกซิเจนในเลือดต่ำ และมีปัญหาเรื่องโรคหัวใจ หรือมีพัฒนาการช้าตามมาถ้าไม่ได้รับการรักษา นอกจากนี้พบว่าใน 1 ชั่วโมงน้องต๊ะมีการหยุดหายใจไปประมาณ 20-30 ครั้ง ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมาก จึงต้องรีบรักษาต่อไปควบคู่ไปกับการให้น้องลดน้ำหนักเพื่อให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนเด็กทั่วไป” นพ.อนุชิต กล่าว.