นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ
เพิ่มความเข้มงวดตรวจตราการนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น หม้อหุงข้าว เตารีด พัดลม เครื่องทำน้ำร้อน และสินค้าสุขภัณฑ์ เช่น โถ อ้างล้างหน้า ก๊อกน้ำ ฝักบัว สายฉีด ที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างเร่งด่วน เนื่องจากขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและผู้ประกอบการว่า มีการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตประชาชน
สำหรับมาตรการแก้ปัญหาเบื้องต้น ให้กรมการค้าต่างประเทศพิจารณาใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522
กำหนดให้สินค้าดังกล่าวต้องมีหนังสือรับรองมาตรฐาน หรือต้องขออนุญาตนำเข้า และอาจพิจารณากำหนดมาตรการปกป้องการทุ่มตลาดสินค้า หากพบว่ามีการขายสินค้าในราคาที่ถูกกว่าขายในประเทศที่ส่งออกมา ขณะเดียวกันจะประสานไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางในการกำกับดูแลสินค้าที่นำเข้ามาจำหน่ายในท้องตลาดให้เข้มงวดมากขึ้น
“ปัจจุบันมีการนำสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานบางชนิดเข้ามาจำนวนมาก ทั้ง ๆ ที่จริงสินค้าไทยสามารถผลิตได้เอง และมีคุณภาพน่าเชื่อถือกว่า แต่ได้ใช้กลยุทธ์จำหน่ายราคาถูก ทำให้สินค้าไทยเสียเปรียบ และไม่ได้รับความนิยม ดังนั้นจึงอยากให้ผู้บริโภคเปรียบเทียบเรื่องคุณภาพ อย่าคำนึงถึงแค่ราคาถูกกว่าเพียงอย่างเดียว เพราะหากซื้อมาใช้แล้วไม่ได้มาตรฐานรองรับ อาจมีอันตรายถึงชีวิตของผู้ใช้งานได้”
ส่วนสถิติการนำเข้าสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ของไทย ตั้งแต่ปี 52-54 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
โดยปี 52 มีการนำเข้ามูลค่า 1,540 ล้านบาท ปี 53 นำเข้า 2,017 ล้านบาท โดยช่วง 4 เดือนของปี 54 นำเข้า 625 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.63% เทียบกับช่วงเดียวกันที่ผ่านมา สำหรับแหล่งนำเข้าสินค้าเครื่องสุขภัณฑ์ที่สำคัญของไทยอันดับ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 500 ล้านบาท เยอรมนี 30.8 ล้านบาท อิตาลี 16 ล้านบาท อินโดนีเซีย 10.4 ล้านบาท และสเปน 9.1 ล้านบาท
ด้านนายศุภชัย สุทธิพงษ์ชัย ประธาน บริษัท ชาร์ปไทย จำกัด ในฐานะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
กล่าวว่า อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยได้รับผลกระทบจากเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาถูกจากประเทศจีนเข้ามาตีตลาดจำนวนมาก และวางราคาขายต่ำกว่าแบรนด์ทั่วไปประมาณ 50% แต่สินค้าเหล่านี้ไม่มีการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ทำให้กลุ่มลูกค้าที่เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าไปแล้วเกิดปัญหาสินค้าเสียและไม่มีคุณภาพ หลังจากซื้อไปในระยะเวลาไม่เพียง 1 เดือนหรือ 1 ปี เช่น หม้อหุงข้าว จีนขายเพียง 299 บาท ส่วนสินค้าที่ได้มาตรฐานขาย 600 บาทขึ้นไป
ทั้งนี้อยากเสนอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรฐานเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างละเอียดและเร่งด่วน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปีขึ้นไป และในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามการดูแลมาตรฐานเครื่องใช้ไฟฟ้าจะควบคุมเพียง 20 รายการเครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้น
ทั้งที่จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดมีมากกว่า 100 รายการ และภาครัฐควรเพิ่มเจ้าหน้าที่ให้มากขึ้น ทำให้การตรวจสอบดูแลคุณภาพสินค้าไม่เพียงพอ สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยปี 54 นี้ คาดว่าจะไม่เติบโตหรือติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี จากปีก่อนตลาดรวมมีมูลค่ารวมมากกว่า 100,000 ล้านบาท สาเหตุมาจาก อากาศในไทยปีนี้ที่ไม่ร้อนเท่ากับปีก่อน ทำให้กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศ ขายได้ลดลง.