เล็งช่วยลูกหนี้บัตรเงินสดต่อจากบัตรเครดิต

คลังเล็งช่วยลูกหนี้บัตรเงินสดเป็นรายต่อไป โดยเฉพาะพวกสาวโรงงาน หลังลดภาระดอกเบี้ยบัตรเครดิต

วันนี้ 23 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังรวบรวมข้อมูลลูกหนี้บัตรกดเงินสด ที่ออกโดยสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นับเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อยกว่าผู้ที่สามารถทำบัตรเครดิตได้ ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้แรงงาน สาวโรงงานที่มีรายได้ไม่เข้าเกณฑ์การทำบัตรเครดิต จึงหลีกเลี่ยงมาใช้ช่องทางบัตรกดเงินสดแทน บางกรณีดอกเบี้ยสูงถึง 28% จึงเป็นกลุ่มที่ควรจะได้รับการดูแลต่อไป โดยหลังจากได้ข้อมูลที่ชัดเจนแล้ว จะกำหนดเกณฑ์ กติกาและกรอบในการช่วยเหลือต่อไป คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้

สำหรับโครงการลดภาระดอกเบี้ยบัตรเครดิตนี้ ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นความจำนงได้กับธนาคาร 3 แห่ง

คือ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-30 ส.ค.นี้ ภายใต้หลัก เกณฑ์เดียวกัน คือต้องเป็นหนี้ที่มีสถานะปกติตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.54 โดยจะให้กู้ไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน แต่สูงสุดไม่เกินรายละ 3 แสนบาท คิดดอกเบี้ย 10% ผ่อนชำระได้ 1-3 ปี ขึ้นกับผู้กู้ กรณีที่ผู้กู้มีบัตรหลายใบ สามารถเลือกเก็บไว้ใช้ได้ 1 ใบ เพื่อให้หมุนเวียนได้ปกติ แต่ต้องมีหนังสือแสดงเจตจำนงกับธนาคารด้วยว่าจะไม่ก่อหนี้ภาระบัตรเครดิตใหม่อีกเป็นเวลา 1 ปี

วัตถุประสงค์หลักของโครงการ เพื่อผ่อนภาระดอกเบี้ยที่เคยจ่ายสูงถึง 20% ให้ลดลงมาครึ่งหนึ่งคือ 10%
 
ดังนั้นหากทำให้ธนาคารพาณิชย์หันมาลดภาระดอกเบี้ยให้ลูกค้าที่กลุ่มลูกหนี้ที่ดี เพื่อดึงลูกค้าไว้ ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ โดยไม่ต้องมาเข้าโครงการทั้งหมด ที่เราประเมินมีเพียงว่า ในกลุ่มลูกหนี้ที่มีความสามารถผ่อนชำระขั้นต่ำรวม 50,000 ล้านบาท จะมาเข้าร่วมโครงการ 20 % หรือ 1 หมื่นล้านบาท แต่หากยังมีความต้องการเพิ่มธนาคารทั้ง 3 แห่งพร้อมที่จะเพิ่มวงเงินได้ เพราะเป็นการทำธุรกิจปกติของธนาคาร ไม่ได้มีผลต่อการชดเชยเงินจากรัฐบาล เป็นหน้าที่ของสถาบันการเงินรัฐที่จะกระตุ้นและเติมในจุดที่ยังไม่เต็ม