กษัตริย์รูปงามแห่งภูฏาน"จิกมี" ประกาศหมั้นกับสาวสามัญชน "เจตซุน เพมา"
โดยจะทรงทำพิธีอภิเษกสมรสในเดือนต.ค.นี้ นับเป็นพระราชพิธีอภิเษกสมรสของราชวงศ์อีกครั้ง นับจากพิธีเสกสมรสของ "วิลเลียม-เคต" แห่งอังกฤษ ขณะที่ในเดือน ก.ค.ที่จะถึงนี้ เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก ก็จะเสกสมรสกับพระคู่หมั้นอีกคู่ เผยปัจจุบันองค์จิกมีทรงเจริญพระชนมพรรษา 31 พรรษา โดยขึ้นครองราชย์แทนพระบิดาตอนพระชนม พรรษา 28 พรรษา จนครองสถิติกษัตริย์ที่ทรงพระเยาว์ที่สุดในโลก
เอเอฟพีรายงานวันที่ 20 พ.ค. ว่า องค์จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน พระชนมพรรษา 31 พรรษา ทรงหมั้นกับสาวสามัญชนแล้ว เพื่อเตรียมอภิเษกสมรส ขณะที่สื่อมวลชนในภูฏานรายงานว่า หญิงสาวมีชื่อว่า เจตซุน เพมา
ข่าวการหมั้นขององค์จิกมีเปิดเผยโดยนายดาโช คินลีย์ ดอร์จี รมว.สารสนเทศของภูฏาน ในวาระเปิดการประชุมสภาสมัยสามัญ
โดยระบุว่า ระหว่างที่องค์จิกมีเสด็จฯ ทรงทำรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมของรัฐสภา พระองค์ตรัสว่าจะทรงอภิเษกสมรสในเดือนต.ค.นี้ องค์จิกมีทรงสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเมื่อปี 2541 สื่อท้องถิ่นรายงานว่าการประกาศหมั้นครั้งนี้นับเป็นพระราชพิธีอภิเษกสมรสของราชวงศ์อีกครั้ง หลังจากพิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมและเคต มิดเดิลตัน ที่กรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 29 เม.ย. และในเดือนก.ค.ที่จะถึงนี้ เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโคจะเสกสมรสกับพระคู่หมั้นแชมป์นักว่ายน้ำ ชาร์ลีน วิตต์สต๊อก ชาวแอฟริกาใต้
สำหรับสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏานองค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์วังชุก
ทรงเป็นที่ชื่นชมและเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวไทยตั้งแต่เมื่อครั้งเสด็จฯ ทรงร่วมงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในปี 2549 ที่กรุงเทพฯ โดยขณะนั้นยังทรงเป็นมกุฎราชกุมาร ซึ่งคนไทยติดตามข่าวของพระองค์ด้วยความสนใจมาตลอด
เสด็จพระราชสมภพเมื่อ 21 ก.พ.2523 พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก และสมเด็จพระราชินีอาชิ เชอริง ยางดน วังชุก พระมเหสีองค์ที่สาม ในวัยพระเยาว์ทรงศึกษาที่อินเดีย จากนั้นเสด็จไปศึกษาต่อที่สหรัฐ อเมริกา ในระดับมัธยมศึกษาที่คัชชิง อคาเดมี โรงเรียนประจำสหศึกษาที่มีชื่อเสียงในรัฐแมสซาชูเส็ตต์ มีอายุกว่า 100 ปี และทรงศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่วิทยาลัยวีตัน รัฐแมสซาชูเส็ตส์ ก่อนที่จะเสด็จฯ มาศึกษาต่อปริญญาโท ในสาขาการทูต และสาขาวิชาการเมืองที่มหาวิทยาลัยออกซ์ ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ
ในปี 2549 มหาวิทยาลัยรังสิตทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาส่งเสริมการเกษตร ให้กับสมเด็จพระราชาธิบดี นอกจากนี้พระองค์ยังส่งนักศึกษาและบุคคลสำคัญเข้ามาศึกษาดูงาน และสัมมนาที่คณะเกษตร ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประจำ
องค์จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2549 ต่อจากองค์ซิงเย นัมชุก พระราชบิดา
โดยทรงมีพระราชดำริในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอย่างแรกด้วยการพระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันชาติของภูฏาน จากนั้นในวันที่ 6 พ.ย.2551 ทรงประกอบพิธีบรมราชาภิเษกเป็นกษัตริย์อย่างเป็นทางการ ณ พระราชวังในกรุงทิมพู ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระเยาว์ที่สุดในโลก ด้วยพระชนม พรรษาเพียง 28 พรรษา
ด้านคุณหญิงมะนาว ม.ร.ว.ดัจฉราพิมล ตุงคนาค กล่าวว่า เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาได้เฝ้าฯ รับเสด็จองค์จิกมี ขณะเสด็จฯ จากดูไบมาแวะยังประเทศไทย ตอนนั้นพระองค์ตรัสบอกว่า จะทรงอภิเษกแล้ว โดยหญิงสาวนั้นทรงคบหามาพักใหญ่ และทรงพาไปรู้จักกับพระราชมารดาแล้ว