ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายบารัค โอบามา มีแผนที่จะทุ่มเงินกว่าพันล้านดอลลาร์ให้แก่ประเทศตะวันออกกลาง โดยเฉพาะประเทศอียิปต์และตูนีเซีย ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯอ้างว่าจะเป็นไปเพื่อการสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศดังกล่าว
โดยสุนทรพจน์ของโอบามาที่กำลังจะมีขึ้นนั้น จะเรียกร้องให้เกิดประชาธิปไตยและความเคารพในสิทธิมนุษยชนภายในกลุ่มประเทศดังกล่าว แม้ว่าสหรัฐจะเคยให้การสนับสนุนการปกครองระบอบเผด็จการในภูมิภาคดังกล่าวมายาวนานก็ตาม
เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐฯจะมองประเทศตะวันออกกลางด้วยสายตาแบบใหม่ หลังจากสิบปีแห่งความตึงเครียดและความขัดแย้ง และหลังจากการสิ้นสุดของสงครามในอิรักและความตายของนายโอซามา บิน ลาเดน พร้อมทั้งยังกล่าวต่อไปว่า การให้การสนับสนุนทางเศรษฐกิจแก่ประเทศตะวันออกกลางนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมกระบวนการประชาธิปไตย โดยสหรัฐฯจะยกเลิกหนี้จำนวน1พันล้านดอลลาร์ของประเทศอียิปต์ และจะให้เงินกู้สูงสุด1พันล้านดอลลาร์แก่ประเทศดังกล่าว นอกจากนี้ ธนาคารโลก ไอเอ็มเอฟ และองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ จะให้เงินกู้เพิ่มเติมอีกประมาณ 2ถึง3 พันล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งกล่าวว่า อียิปต์และตูนีเซียจะเป็นตัวส่งสัญญาณการสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยในประเทศอาหรับอื่นๆ
โฆษกทำเนียบขาว นายเจย์ คาร์นี่ ออกมาแถลงว่า "สิบปีที่ผ่านมา ความสนใจของเราในตะวันออกกลางนั้นมุ่งไปยังประเทศอิรัก ทั้งการใช้กำลังทหารและการตามล่าตัวนายบิน ลาเดน รวมถึงการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ และแม้ว่าการต่อสู้กับกลุ่มอัลกออิดะห์ยังจะคงดำเนินต่อไป แต่ว่าตอนนี้เป็นโอกาสครั้งสำคัญที่เราจะส่งเสริมคุณค่าประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง"
ทั้งนี้ ผลการสำรวจโดยองค์กร Pew เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาระบุว่า คะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีโอบามายังคงตกต่ำในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและประเทศมุสลิมอื่นๆ ยกเว้นอินโดนีเซีย