สสส. จี้สนช.แก้ กม.เกี่ยวกับคอมพ์

สสส.-เครือข่ายอินเทอร์เน็ตปลอดภัยสร้างสรรค์ บุกสภาจี้


สนช. แก้ กม.การกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ชี้กฎหมายตั้งแต่ปี 46 ล้าสมัยไม่ทันยุค แนะห้ามออนไลน์ข้อมูลส่วนตัวเด็กต่ำกว่า 18 เพิ่มโทษผู้ฝ่าฝืน ป้องกัน วัยใส ถูกลวง โจรบุกถึงตัว แฉ มหาภัยเน็ต เมืองนอกฮิตโพสรูป ใส่ร้ายคนที่เกลียดซ้ำตบแล้วถ่าย โหลดประจานลงจอคอมพ์


20 ธ.ค


เครือข่ายอินเทอร์เน็ตปลอดภัยสร้างสรรค์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายครอบครัว มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย สถาบันไทยรูรัลเน็ต สมาคมผู้ดูแลเว็บแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) โดยมี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ตัวแทนคณะกรรมาธิการกิจการสตรี เยาวชน ผู้สูงอายุและคนพิการ และในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพื่อขอให้แก้ไขร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

โดยนาย สุนิตย์ เชรษฐา ผู้จัดการแผนงานเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสุขภาวะ สสส.


กล่าวว่า การแก้ปัญหาอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นระบบ ต้องอาศัยความเด็ดขาดของกฎหมาย โดยควรแก้ไข ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่แม้จะไม่เคยบังคับใช้ แต่ก็ร่างขึ้นตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งก้าวไม่ทันเทคโนโลยี ไม่ครอบคลุมประเด็นสำคัญบางประการ ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนในระบบอินเทอร์เน็ต

เพราะการที่เว็บไซต์หรือผู้ให้บริการเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเยาวชนไม่ว่าจะเป็นอายุ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ อีเมลล์ เบอร์โทรศัพท์ ทำให้มิจฉาชีพสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าว ในการเข้าถึงตัวเด็กเพื่อประกอบอาชญากรรม

นายสุนิตย์ กล่าวว่า


ควรเพิ่มข้อกฎหมายใน พ.ร.บ.ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. .. ดังนี้

1.เพิ่มบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของเด็กและเยาวชนในระบบอินเทอร์เน็ต เช่น ห้ามผู้ให้บริการเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บนอินเทอร์เน็ต

2.เพิ่มบทลงโทษผู้ฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 4 หมื่นถึง 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3.การให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปิดกั้น (block) เว็บไซด์และบริการที่ผู้ให้บริการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการที่อายุต่ำกว่า 18 ปี


ในต่างประเทศอย่างสหรัฐฯ


มีกฎหมายกำหนดให้เว็บไซต์ต้องเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี เป็นความลับ การติดต่อกับเด็กทำได้ครั้งต่อครั้งเท่านั้น ถ้าจะนำข้อมูลไปใช้ นอกจากนี้ ผู้ปกครองต้องยินยอม หากพบการละเมิด ผู้เสียหายเรียกร้องค่าเสียหายได้

ในอังกฤษ มีหน่วยงานที่เรียกว่า Child Exploitation and Online Protection Centre เป็นความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญ ตำรวจ องค์กรและบริษัทต่างๆ ไล่ล่าจับกุมผู้กระทำผิดกับเด็กในอินเทอร์เน็ต ส่วนเยอรมันและสหภาพยุโรป



มีมาตรการ Action Plan for Safer Use of Internet ระบุให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ต้องตรวจสอบเนื้อหาในระบบของตน ติดตั้งระบบกรองเนื้อหาเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม และมีศูนย์ Hotline แจ้งเหตุเพื่อส่งให้ตำรวจดำเนินการ โดยบังคับใช้กฎหมายทั่วไปกับเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต นายสุนิตย์ กล่าว


ด้าน น.ส.กัญจนา กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ในช่วงนี้คณะกรรมาธิการกำลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ตนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้พัฒนารวดเร็วมากจนตามไม่ทัน ทุกคนจะต้องเข้ามาดูและอุดช่องโหว่ เพื่อไม่ให้เยาวชนเข้าไปในเว็บไซด์ที่ไม่เหมาะสม


นางศรีดา ตันทะอธิพานิช ผจก.มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าวว่า ในประเทศไทยมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตประมาณ 8 ล้านคน เป็นเด็กและเยาวชนราว 5 ล้านคน ซึ่งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ขยายตัวอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์ราคาต่ำลง ภาพและเสียงของผู้ใช้จึงเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น การเข้าเว็บไซด์ลามก ยั่วยุเรื่องเพศมากตามไปด้วย


อย่างโปรแกรม CamFrog (แคมฟร็อก)


ที่กลายเป็นแหล่งโชว์การมีเพศสัมพันธ์ในหมู่วัยรุ่น ในไทยเองมีเว็บไซด์เชิญชวนให้มีแฟน มีกิ๊ก การโชว์ การพูดคุยเรื่องเพศ ก็เพิ่มมากขึ้น โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วงนอกจากเรื่องเพศ ที่กำลังฮิตมากในหมู่วัยรุ่นต่างประเทศคือ การเปิดเว็บไซด์ใส่ร้าย ทำลายคนไม่ที่ไม่ชอบ และการทำร้ายร่างกาย



นางอัญญอร พานิชพึ่งรัถ มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ที่เมืองนอกวัยรุ่นกำลังนิยมเข้าไปโพสสรูปคนที่ไม่ชอบ แล้วใส่ข้อมูลป้ายสีให้เสียหาย ทำลายชื่อเสียง รวมถึงการกระทำที่เรียกกว่า ตบแล้วถ่าย แล้วนำไปโพสในอินเทอร์เน็ตให้อับอาย สิ่งเหล่านี้จะระบาดมาถึงประเทศไทยแน่นอน และการโชว์เรือนร่าง โชว์การมีเพศสัมพันธ์จะกลายเป็นวัฒนธรรมของเด็กไทย การเข้าเว็บลามกจะเหมือนเรื่องปกติ

ขณะนี้มีหลายบ้านที่ผู้ปกครองบอกว่ากลายเป็นลูกสาวที่ชอบดูเว็บโป๊ แม้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากพ่อแม่จะเป็นสิ่งสำคัญที่ป้องกันปัญหาได้ แต่การมีกฎหมายที่เข้มแข็งจะช่วยแก้ปัญหาได้มากขึ้น


คมชัดลึก
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์