ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ช่วงเช้าวันที่ 13 พฤษภาคม
บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ เพื่อทรงเป็นประธานในงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เวลาประมาณ 08.30 น. โดยมีเหล่าข้าราชการและประชาชนเดินทางมารอรับเสด็จและรอเข้าร่วมพระราชพิธีพืชมงคล เพื่อรอการเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวที่จะใช้ว่านในพระราชพิธี
นายเฉลิมพร พิรุณสาร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่พระยาแรกนา
เทพีคู่หาบทอง ได้แก่ นางสาวเดือนเพ็ญ ใจคง เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน กรมหม่อนไหม และนางสาวสรชนก วงศ์พรม นายช่างโยธาชำนาญงาน กรมประมง ส่วนเทพีคู่หาบเงิน ได้แก่ นางสาวสิริลักษณ์ สมสกุล นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการ กรมชลประทาน และนางสาวเจษฎาภรณ์ สถาปัตยานนท์ นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ คู่เคียงมี 16 ราย และผู้เชิญเครื่องอิสริยยศจำนวน 4 ราย สำหรับพระโคแรกนา ได้แก่ พระโคฟ้า และพระโคใส ส่วนพระโคสำรอง ได้แก่ พระโคเทิดและพระโคทูน
พระยาแรกนาได้ยาตรา พร้อมเทพีออกจากโรงพิธีพราหมณ์ มีราชบัณฑิตและพราหมณ์นำผ่านพลับพลาหน้าพระที่นั่ง
พระยาแรกนาเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทถวายบังคม แล้วไปยังลานแรกนา เจ้าพนักงานจูงพระโคเทียมแอก พระยาแรกนาเจิมพระโคและไถแล้วจึงไถดะไปโดยรี 3 รอบ โดยขวาง 3 รอบ หว่านธัญพืช โหรลั่นฆ้องชัย แล้วไถกลบอีก 3 รอบ เจ้าพนักงานปลดพระโคออกจากแอก พระยาแรกนาและเทพีกลับไปยังโรงพิธีพราหมณ์ พราหมณ์เสี่ยงของกิน 7 สิ่งตั้งเลี้ยงพระโค ประกอบด้วย หญ้า ข้าวเปลือก เหล้า ข้าวโพด ถั่วเขียว งา และน้ำ
พระโคกินหญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควรธัญญาหารผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์ และพระโคกินเหล้า
พยากรณ์ว่า การคมนาคมสะดวก การค้าขายกับต่างประเทศดี เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง โดยพระยาแรกนา ตั้งสัตยาธิษฐานเสี่ยงทายหยิบผ้านุ่งแต่งกาย พยากรณ์ว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี
นอกจากนี้ ในงานพระราชพิธีฯ ยังมีการมอบรางวัลและยกย่องประกาศเกียรติคุณให้แก่เกษตรกร สถาบันเกษตรกรและ สหกรณ์ดีเด่นประเภทต่างๆ และปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ที่ผ่านการคัดเลือกพร้อมทั้งเผยแพร่ผลงานให้สาธารณชนทั่วไปได้รู้จักและยึดถือเป็นแบบอย่างในแนวทางการปฏิบัติอีกด้วย