นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมการค้าภายในออกได้ออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่อง การส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักร ปี 2554 โดยให้ผู้ส่งออกสุกรมีชีวิตชะลอการส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวทุกกรณี จนกว่าสถานการณ์ด้านปริมาณและราคาเข้าสู่ภาวะปกติ แต่หากมีเหตุจำเป็นต้องส่งออกสุกรมีชีวิต ให้ผู้ส่งออกแจ้งสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน เพื่อเสนอกระทรวงพาณิชย์พิจารณาต่อไป
“สาเหตุที่ต้องออกประกาศเพราะจากการตรวจสอบสถานการณ์ราคาในตลาดยังมีการปรับราคาสูงขึ้น กว่าราคาที่สำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้ออกประกาศไปเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมาทั้งในส่วนของราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มและราคาขายปลีกสุกรชำแหละ และปริมาณยังเข้าสู่ตลาดน้อยลง ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคทางรองนายกรัฐมนตรี จึงมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดมาตรการดูแลเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมและปริมาณไม่ขาดแคลนจึงจำเป็นต้องขอให้ชะลอการส่งออกสุกรมีชีวิตในทุกกรณี”นางพรทิวากล่าว
อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีการจำหน่ายสุกรและไข่ไก่สูงกว่าราคาแนะนำ อาจมีความผิดตามกฎหมาย โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะพิจารณาให้กรมสรรพากรตรวจสอบรายได้และการเสียภาษีต่อไป
ส่วนสถานการณ์ราคาไข่ไก่นั้น จากการตรวจสอบสถานการณ์พบว่า ปริมาณผลผลิตไข่ไก่มีมากขึ้น จากแม่พันธุ์ไก่ใหม่ที่นำเข้ามาก่อนหน้านี้ได้เริ่มทยอยผลิตไข่ไก่ออกสู่ตลาดแล้ว จึงทำให้ราคาจำหน่าย มีแนวโน้มลดลง กรมการค้าภายในได้พิจารณาต้นทุนการผลิตไข่ไก่แล้ว จึงได้ออกประกาศฯ กำหนดลดราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์มใหม่ให้สอดคล้องกับราคาขายจริงโดยปรับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มจาก 3.10 บาท เป็น 3.00 บาท ส่งผลให้ราคาขายส่งและขายปลีกลดลง ดังนี้ ไข่ไก่เบอร์ 0 ขายส่งฟองละ 3.60 บาท ขายปลีกฟองละ 3.90 บาท เบอร์ 1 ขายส่ง ฟองละ 3.40 บาท ขายปลีกฟองละ 3.70 บาท เบอร์ 2 ขายส่งฟองละ 3.30 บาท ขายปลีกฟองละ 3.50 บาท เบอร์ 3 ขายส่งฟองละ 3.20 บาท ขายปลีกฟองละ 3.40 บาท เบอร์ 4 ขายส่งฟองละ 3.10 บาท ขายปลีกฟองละ 3.30 บาท และเบอร์ 5 ขายส่งฟองละ 3 บาท หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ แจ้งที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานการค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศ