นายเสริม ไชยณรงค์ ผวจ.สุรินทร์ แถลงผลผลการประชุมร่วมกับฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงาน ที่ศูนย์นิคมปราสาท อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เมื่อช่วงเช้าว่า
จาการประเมินสถานการณ์การปะทะตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ขณะนี้ ในพื้นที่ไม่มีการใช้ปืนอาวุธหนักหรือปืนใหญ่เข้ามาในพื้นที่เป็นวันที่ 4 แล้ว เห็นว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงแล้ว แม้จะมีการใช้อาวุธเล็กประจำกายอยู่บ้าง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน และไม่น่าจะมีการใช้อาวุธหนักตอบโต้กันอีก ประกอบกับประชาชนได้อพยพออกมา รวม 11 วันแล้ว จึงห่วงทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยง และต้องการเดินทางกลับไป เพื่อไปประกอบอาชีพและใช้ชีวิตอยู่ตามปกติ จึงอนุญาตให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านได้ โดยได้จัดยานพาหนะทั้งรถของทหาร ตำรวจ จากขนส่งจังหวัดและรถส่วนตัว โดยจ่ายค่าน้ำมันให้ในการขนส่งผู้อพยพกลับหมู่บ้านของตัวเอง
ผวจ.สุรินทร์ กล่าวว่า ส่วน 2 หมู่บ้าน คือ บ้านหนองคันนา ที่อยู่ใกล้กับปราสาทตาเมือนธม และบ้านไทยนิยมพัฒนา ซึ่งอยู่ใกล้กับปราสาทตาควาย
พื้นที่ชายแดนและเป็นพื้นที่เป้าหมาย เคยมีกระสุนปืนใหญ่ตก ได้เพิ่มตำรวจเข้าไปดูแลความปลอดภัยและสร้างความอุ่นใจให้ประชาชนมากขึ้น อย่างไรก็ดี แม้จะส่งประชาชนกลับไปแล้ว แต่จะยังไม่ปิดศูนย์อพยพทั้ง 35 ศูนย์ เพื่อรอดูสถานการณ์และใช้ในการประสานงานต่อไปอีก 3 วัน หากเกิดการปะทะรุนแรงขึ้นมาอีกก็จะอพยพเคลื่อนย้ายประชาชนตามแผนการอพยพออกมาอยู่ตามจุดอพยพเดิมที่กำหนดไว้