“หลวงพ่อคูณ”ได้กลับวัดแล้วศิษย์โล่งใจ

“หลวงพ่อคูณ” ได้กลับวัดแล้ว ศิษย์โล่งใจ หมอห่วงโรคซึมเศร้า สั่งห้ามศิษย์ชวนคุยเรื่องร้าย รองผู้ว่าฯ สั่งคุมเข้มกฎเหล็กป้องกันป่วยอีก

จากรณี พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทุด จ.นครราชสีมา เกจิชื่อดัง อาพาธต้องเข้านอกพักรักษาที่ ห้อง 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราช นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา จากการตรวจเบื้องต้นพบมีการติดเชื้อในกระแสเลือด ต้องให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำโดยให้คณะแพทย์เฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดจนอาการดีขึ้นตามลำดับ จาหายเกือบเป็นปกติและอนุญาตให้กลับวัดได้

ความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการหลวงพ่อคูณ วันนี้( 2 พ.ย.) หลวงพ่อคูณตื่นจากจำวัดในเวลาตี 5 เศษ เหมือนทุกวัน

จากนั้นปฏิบัติกิจส่วนตัวก่อนที่คณะลูกศิษย์นำอาหารมาถวายซึ่งส่วนใหญ่เป็นของโปรดหลวงพ่อคูณเหมือนเช่นทุกวัน ซึ่งหลวงพ่อคูณสามรถฉันท์ได้มากขึ้นและท่าทางแจ่มใสขึ้นเนื่องจากทรายว่าจะได้เดินทางกลับวัดในวันนี้ ต่อมา นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ได้เข้าตรวจอาการพร้อมเปิดเผยว่า อาการ โดยรวมดีขึ้นถือว่าจากผลการรักษาถือได้ว่าดีขึ้นมาก หลังจากที่เปลี่ยนจากการให้ยาทางหลอดเลือดมาเป็นยาฉันท์ก็ยังไม่มีอาการแทรกซ้อนแต่อย่างใดอาการ แต่ยังหัวเรื่องเมื่อกลับวัดแล้วอยากให้ลูกศิษย์ดูแลให้ดี ให้ท่านพักผ่อนอย่างเพียงพอ เนื่องจากเมื่อตอนที่ทานเข้าโรงพยาบาลมีน้ำหนักเพียง 35 กก. มาอยู่รักษาได้เพียง 7 วัน ถึงตอนนี้น้ำหนักขึ้นมาเป็น 38 กก. นั่นหมายถึงถ้าท่านได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ฉันท์อาหารถูกต้องตามหลักโภชนาการ ก็จะทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรงตามไปด้วย

นอกจากนี้ยังเป็นห่วงเรื่องที่ผู้สูงอายุมักเป็นบ่อยคือโรคซึมเศร้า
 
ดังนั้นจึงไม่ควรนำเรื่องที่ไม่สบายใจไปให้ท่านรับรู้อย่างเด็ดขาด เพราะโรคนี้ถือว่าเป็นอันตรายมากสำหรับผู้สูงอายุ คือเมื่อเกิดแล้วผู้ป่วยจะปฏิเสธการรักษาซึ่งถือว่าเป็นอัตรายมากสำหรับผู้สูงอายุในวัยนี้จึงไม่อยากให้ใครนำเรื่องที่ทำให้หลวงพ่อคูณไม่สบายในไปให้ท่านรับทราบอย่างเด็ดขาดเพื่อท่านจะได้อยู่ดับเราไปนาน ๆ

ทั้งนี้ ก่อนที่หลวงพ่อคูณจะเดินทางกลับวัด นายสมศักดิ์ ปริสุทโธ เหมทานนท์ รอง ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วย คณะทีมแพทย์ที่รักษา
 
ได้ร่วมกันแถลงถึงกรณีการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อคูณ โดยนายสมศักดิ์เปิดเผยว่า  เพื่อให้ท่านได้พักผ่านอย่างเพียงพอ จังได้ออกประกาศจังหวัดนครราชสีมา เรื่องแนวทางปฏิบัติในการรับกิจนิมนต์ และการเข้ากราบนมัสการ หลวงพ่อคูณ  จึงขอให้ทั้งลูกศิษย์ที่ดูแล และประชาชนที่เดินทางไปที่วัดบ้านไร่ ปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด ได้แก่  การรับกิจนิมนต์นอกสถานที่ ให้งดรับกิจนิมนต์จนกว่างสุขภาพจะแข็งแรง และมีน้ำหนักมากว่า 39 กิโลกรัม  การเข้ากราบนมัสการ ให้เข้านมัสการได้ตามวันเวลาดังนี้คือ วัน อังคาร พฤหัสบดี เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์  งดกราบนมัสการในวันจันทร์ พุธ และวันศุกร์ (ยกเว้นตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์)

นอกจากนี้ในวันที่ให้เข้ากราบนมัสการให้เข้ากราบนมัสการได้ในเวลาดังนี้คือช่วงเช้าก่อนฉันภัตตาหารเช้า ช่วงกลางวันก่อนฉันอาหารเพล และในเวลา 15.00 น.
 
โดยในการเข้ากราบนมัสการแต่ละครั้งต้องไม่ใช้เวลาเกิน 30 นาทีและไม่ให้เข้าใกล้หลวงพ่อคูณเกิน 2 เมตร ในส่วนของผู้ที่ดูแลใกล้ชิดให้สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ 70% ทุกครั้ง และ ทั้งนี้เพื่อให้การปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวได้มอบหมายให้นายอำเภอด่านขุนทด และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรด่านขุนทดเป็นผู้ควบคุม กำกับ การปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวด้วย.