พ่อคูณฉันได้-น้ำหนักขึ้น

'พ่อคูณ'ฉันท์ดี แถมน้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 38 กิโลกรัมแล้ว หมอชี้จันทร์นี้กลับวัดได้

กรณีพระเทพวิทยาคมหรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกจิดังเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา อาพาธด้วยอาการหนาวสั่น อ่อนเพลีย อาเจียน เข้ารับการรักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยแพทย์ระบุเกิดจากภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด เนื่องจากหลวงพ่อรับกิจนิมนต์หนัก พักผ่อนน้อย จนร่างกายซูบผอม น้ำหนักลดลงจากปกติ 40-41 กก. เหลือเพียง 35 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งแพทย์ให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะและเสริมระบบโภชนาการ จนมีอาการดีขึ้นตามลำดับ ตามที่นำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่อง
   
ความคืบหน้าอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 30 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงพ่อคูณ ตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยสีหน้าสดชื่นมากขึ้น ก่อนปฏิบัติกิจวัตรประจำวันตามปกติ โดยมีลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดคอยดูแลไม่ห่วง จากนั้นแพทย์ทำการตรวจวัดระบบการทำงานของร่างกาย พบว่าสัญญาณชีพความดันโลหิต 122/68 มิลลิเมตรปรอท อุณหภูมิร่างกาย 37 องศาเซลเซียส ชีพจรเต้น 70 ครั้งต่อนาที อยู่ในเกณฑ์ปกติ
   
ต่อมาลูกศิษย์นำภัตตาหารเช้ามาถวาย หลวงพ่อคูณฉันอาหารได้มาก ประกอบด้วยเมนูข้าวสวย น้ำพริกปลาป่น ปลาจาระเม็ดทอด บวบต้ม แตงกวา หมูทอด ต้มจืด ต่อด้วยเมนูผลไม้เป็นมะละกอสุก ขนมครก และนมเปรี้ยวยาคูลท์ ระหว่างฉันอาหารหลวงพ่อมีอาการไอเล็กน้อยเนื่องจากมีเสมหะอยู่ในลำคอ พร้อมกับพูดคุยกับลูกศิษย์

โดยบ่นคิดถึงวัดบ้านไร่ อยากกลับวัดอยู่ตลอดเวลา ลูกศิษย์ก็พยายามรบเร้าให้หลวงพ่อฉันข้าวเยอะ ๆ จะได้ทำน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หายจากอาพาธและกลับวัดเร็ว ๆ ทำให้หลวงพ่อมีกำลังใจฉันอาหารได้มาก หลังจากฉันอิ่มได้ฉันยารักษาเบาหวาน ยาบำรุงสมอง หัวใจ และยาฆ่าเชื้อ
   
จากนั้นลูกศิษย์ได้พาหลวงพ่อคูณลุกเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยออกมาภายนอก เพื่อออกกำลังกายและย่อยอาหาร มีญาติโยมและพยาบาลหลายคนที่ห่วงใยพากันมาเฝ้าเยี่ยมอยู่นอกห้อง เมื่อเห็นหลวงพ่อคูณเดินออกมาก็เข้ากราบนมัสการ หลวงพ่อคูณใช้มือเคาะศีรษะญาติโยมและพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบอย่างเป็นกันเอง
   
ขณะที่ นพ.ธีรพลโตพันธานนท์ ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณดีขึ้นมากแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ระบบในร่างกายเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะน้ำหนักตัว เริ่มเพิ่มขึ้น วัดได้ล่าสุด 38 กก. เป็นผลมาจากหลวงพ่อคูณฉันอาหารได้มาก และทางแพทย์ก็ได้ให้อาหารเสริม ตอนนี้แพทย์ได้เปลี่ยนการให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำเป็นยาเม็ดรับประทานแล้ว มีการตอบสนองต่อการรักษาได้ดี แต่ตอนนี้ยังคงต้องให้หลวงพ่อพักผ่อนให้เพียงพอ ฉันอาหารให้มากขึ้น และยังคงเฝ้าสังเกตอาการภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด และหากไม่มีอะไรผิดปกติก็จะอนุญาตให้กลับวัดในวันจันทร์ที่ 2 พ.ค.นี้.