ปิดตัวแล้วเว็บไซต์แม่ชีทศพร!หลังขึ้นข้อความกลับลำ“กรรมแก้ไม่ได้” โผล่อีกราย“แม่ชีอีสาน”แพร่คำสอนผิดเพี้ยนงมงาย
วันนี้ (29 เม.ย.) สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวถึงกรณีพระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะหนใหญ่ ได้ตักเตือนแม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ หรือ แม่ชีใหญ่ ให้ปรับเปลี่ยนวิธีการสอนแก้กรรมที่ไม่เหมาะสมและหมิ่นเหม่ต่อหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาจนถึงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่า เป็นเรื่องของคน เนื่องจากความคิดของคนเราแตกต่างกันคิดดีก็มี คิดไม่ดีก็มี แต่ถ้าคนที่คิดดี เขาก็จะไม่พูดเช่นนี้ เหมือนกรณีของพระอรหันต์ แม้ท่านจะทราบว่าตนเองเป็นพระอรหันต์ แต่ท่านก็ไม่เคยพูดว่า ตนเป็นพระอรหันต์ ดังนั้น สิ่งที่แม่ชีพูดก็ให้คนตัดสินกันเองว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ตนก็หวังว่า พศ. จะไปกำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า
พศ.เตรียมจัดทำหนังสือเวียนส่งไปยังเจ้าคณะภาค เจ้าคณะปกครองแต่ละจังหวัด รวมทั้งเจ้าอาวาสวัดทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ทางวัดกำชับและจัดระเบียบแม่ชีที่อยู่ภายใต้การดูแลของวัดให้ระมัดระวังเรื่องคำสอนและการวางตัวให้เหมาะสม หลังเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น ทำให้แม่ชีถูกจับตาจากสังคมมากขึ้น ดังนั้น พศ.จึงได้ออกมาตรการในเบื้องต้นให้เจ้าคณะผู้ปกครองและเจ้าอาวาสช่วยตักเตือนแม่ชีที่มีพฤติกรรมดังกล่าวด้วย
นายนพรัตน์ กล่าวต่อไป จากการสำรวจข้อมูลเมื่อปี 2553 ที่ผ่านมา พศ. จากวัดจำนวนกว่า 30,000 แห่งพบว่า
มีแม่ชีที่ขึ้นทะเบียน และอยู่ภายใต้การดูแลของวัดประมาณ 20,000 คน แต่อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า จำนวนแม่ชีน่าจะมีมากกว่านี้ เนื่องจากยังมี แม่ชีประเภทบวชชีพราหมณ์อีกจำนวนมากที่ไม่ได้ทะเบียนและไม่ได้มาอยู่ในวัด อีกทั้งยังมีแม่ชีอีกจำนวนหนึ่งที่บวชแล้วกลับไปอยู่บ้านและไม่ได้มาขึ้นทะเบียนไว้ ทั้งนี้ สาเหตุที่ข้อมูลเกี่ยวกับแม่ชียังไม่สมบูรณ์เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายมารองรับสถานภาพของแม่ชี ถือว่ายังเป็นอุบาสิกา หรือเปรียบเสมือนเด็กวัดที่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าอาวาส อย่างไรก็ตาม จะต้องรอจนกว่า จะสามารถประกาศใช้ร่าง พ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ...แล้วเสร็จ เพราะ พ.ร.บ.ดังกล่าวจะมีการกำหนดสถานภาพแม่ชี และกฎระเบียบในการดูแลแม่ชี ซึ่งก็ยังต้องรอต่อไปเนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการผลักดันร่างดังกล่าว
ผอ.พศ. กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดกรณีแม่ชีทศพร ตนยังได้รับรายงานจาก สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ในจังหวัดภาคอีสาน ว่า
ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีแม่ชีอีก 1 รายที่มีคำสอนผิดเพี้ยน และไม่เหมาะสม ดังนั้น ตนจึงมอบหมายให้ พศจ. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นตามที่มีการร้องเรียนมาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม สำหรับรายละเอียดของแม่ชีรายดังกล่าวนั้นคงต้องรอให้ พศจ. ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าคำสอนไม่เหมาะสมจริงหรือไม่ จึงจะสามารถเปิดเผยรายชื่อ และวัดของแม่ชีรายดังกล่าวได้
“ปัจจุบันในสังคมไทยมีกลุ่มบุคคลหรือขบวนการหลอกลวง มาสร้างความงมงายผ่านกุศโลบายหลายรูปแบบให้ประชาชนหลงเชื่อ จึงอยากเตือนให้ประชาชนระมัดระวังและคิดให้รอบคอบอย่าหลงเชื่อสิ่งที่คิดว่าจะเป็นการแก้กรรมหรือลบล้างความผิดในอดีตที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดกรณีนี้ ยังอยากฝากเตือนไปยังพระสงฆ์ด้วย เพราะทราบว่า มีพระหลายรูปที่มีคำสอน และวิธีการแก้กรรมแบบแปลกๆ จึงอยากให้ปรับเปลี่ยนวิธีการสอนดังกล่าวด้วย” นายนพรัตน์ กล่าว
ด้าน น.ส. ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า
ขณะนี้ได้ทำหนังสือด่วนแจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ดำเนินการกับคลิปแม่ชีทศพรที่มีการสอนไม่ถูกต้องและผิดตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ ซึ่งทางศูนย์เฝ้าระวังได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมด รวมถึงเปิดรับคลิปของเครือข่ายเฝ้าระวังที่มีไว้ครอบครองสำเนาเก็บไว้ส่งเข้ามาเป็นหลักฐาน อีกทั้งได้ตรวจสอบไปยังเว็บไซต์แม่ชีทศพร www.thossaporn.com ไม่มีการเผยแพร่คลิปคำสอนต่างๆและในช่วงเช้าของวันนี้ (29 เม.ย.) ได้ตรวจสอบไปยังเว็บดังกล่าวทราบว่าทางแม่ชีทศพรได้ปิดเว็บตัวเองเรียบร้อยแล้ว ส่วนตามเว็บอื่นก็เปิดดูไม่ได้เพราะลิ้งค์ต้นทางที่เว็บยูทูบถูกปิด อย่างไรก็ตาม จะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งไปยัง สตช. โดยเฉพาะตำรวจไอซีที ซึ่งสามารถดูข้อมูลย้อนหลังดำเนินคดีตามกฎหมายได้
“ไม่อยากให้มีกรณีอย่างนี้เกิดขึ้นอีก อยากจะวิงวอนไปที่แม่ชีทศพรไม่ควรนำคลิปดังกล่าวออกมาเผยแพร่อีก น่าจะเป็นผลดีต่อสังคม ในส่วนของประชาชนที่ยังพบเห็นคลิปที่เว็บไซต์ของให้แจ้งมายังกระทรวงวัฒนธรรมด้วย ไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้ไปมอมเมาประชาชน” น.ส.ลัดดา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์แม่ชีทศพรก่อนที่จะมีการปิดตัวลง ได้มีการโพสต์ข้อความชี้แจงว่า
รูปแบบการบรรยายธรรมในวิดีโอ ที่นำมาเผยแพร่นั้น วัตถุประสงค์เพื่อให้คนที่เข้ามาฟังได้รับรู้เรื่องของกรรมในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เกิดความละอายในการทำบาป และส่งเสริมให้เกิดการทำดีต่อพ่อ-แม่บุพาการี การให้เกียรติกันของสามี-ภรรยา ไปจนถึงการไม่ลักทรัพย์ในเวลาทำงาน และอื่นๆที่มีอีกมาก ตามจำนวนวิดีโอที่เอาลงไปนั้น เพื่อหวังจะให้เกิดการทำดีขึ้นต่อกัน ไม่ทำผิดซ้ำอีก หรือมีความละอายเกรงกลัวต่อบาปมากขึ้น มิได้มุ่งหวังให้เกิด การทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก จึงอยากขอใช้พื้นทีนี้ อยากให้ทุกคน ใช้วิจารณญาณ ในการรับชมหรือรับฟัง สุดท้ายขอแจ้งในที่นี้อีกครั้งว่า "กรรม แก้ไม่ได้" แต่เราเลือกที่จะไม่ทำกรรมนั้นอีกได้ ลงชื่อ admin@thossaporn.com