สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประเทศไทยได้ยกเลิกแผนการเจรจาการหยุดยิงกับกัมพูชาแล้ววันนี้ (27 เม.ย.) ท่ามกลางความพยายามของหลายฝ่ายที่ต้องการยุติเหตุปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย โดยเป็นพลเรือน 1 ราย
วานนี้ ความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันในการหยุดยิงเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น หลังจากที่มีรายงานว่ารัฐมนตีว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้งสองฝ่ายจะพบปะกันเพื่อร่วมหารือเพื่อยุติเหตุรุนแรง ในข้อพิพาทเหนือพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายอ้างกรรมสิทธิ์ว่าเป็นของตน
ขณะที่ทางการไทยได้กล่าวในช่วงเช้าวันนี้ว่า พล.อ.ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ รมว.กลาโหมของไทย ได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางไปยังกรุงพนมเปญ เพื่อหารือประเด็นดังกล่าวร่วมกับนายเตีย บันห์ รมว.กลาโหมกัมพูชา
ด้านพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวในการแถลงข่าวว่า ทางการไทยได้ตัดสินในเมื่อคืนนี้ที่จะยกเลิกการเดินทางของพล.อ.ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ หลังจากมีกระแสข่าวจากสื่อมวลชนของกัมพูชาว่า ประเทศไทยตกลงที่จะเจรจาเรื่องการหยุดยิง เนื่องจากไทยยอมรับความปราชัยและความสูญเสีย
หลังจากเหตุปะทะอย่างหนักดำเนินมาอย่างต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 5 พบชาวกัมพูชาเสียชีวิตทั้งสิ้น 8 ราย และคนไทย 5 ราย ได้สร้างความกดดันให้แก่ความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศ โดยพ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า พบพลเรือนของไทยเสียชีวิตเป็นรายแรกจากเหตุปะทะวานนี้ และทางการไทยยินดีที่จะเจรจาภายใต้เงื่อนไขที่ว่าทางกัมพูชาต้องหยุดยิงก่อนเป็นเวลา 2-3 วัน เราแจ้งเงื่อนไขดังกล่าวให้กัมพูชาทราบอย่างชัดเจนแล้ว
ขณะที่วานนี้ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศของไทย กล่าวว่าทางการไทยจะทำการทบทวนนโยบายต่อกัมพูชา ทั้งด้านการค้า ด่านตรวจบริเวณพรมแดน และความร่วมมือในทุกระดับ แต่จะไม่ถึงขั้นการตัดสัมพันธไมตรี
ทั้งนี้เขามีกำหนดที่จะเดินทางไปยังกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อหารือกับนายมาร์ตี้ นาทาเลกาวา รมว.ต่างประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะที่อินโดนีเซียดำรงประธานสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าไทยยินยอมที่จะให้ผู้สังเกตการณ์จากนานาชาติเดินทางไปยังพื้นที่พิพาทได้ โดยมีเงื่อนไขว่ากัมพูชาจะต้องถอนกองกำลังทหารออกจากปราสาทพระวิหารก่อน
ด้านกัมพูชากล่าวหาไทยว่าใช้เครื่องบินสอดแนมและแก๊สพิษในการปะทะครั้งล่าสุด ขณะที่ไทยกล่าวปฏิเสธอย่างแข็งขัน