เผยเป็นเรื่องปกติลูกปูถูกคลื่นซัดเกยชายหาดกะรน ยันตรวจอุณหภูมิของน้ำ ความเค็มของน้ำ และแพงตอนแล้วไม่เกี่ยวกับลางร้าย
จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์ประหลาดบริเวณชายหาดกะรน จ.ภูเก็ต เนื่องจากมีลูกปูวัยอ่อนจำนวนนับล้านๆตัวถูกคลื่นซัดมาเกยหาดจนสร้างความตื่นตระหนกแก่ชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ทราบข่าว เกี่ยวกับความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 เม.ย. นายวรรณเกียรติ ทับทิมแสง ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน เผยว่า จากการรายงานของนักวิชาการและตรวจสอบโดยละเอียดทราบว่าสัตว์น้ำที่ลอยขึ้นมาเกยหาดเป็นวัยอ่อนของปูชนิดหนึ่ง ซึ่งตามปกติจะมีปูลักษณะนี้ เช่น ปูกระดุม ปูหนุมาน อาศัยอยู่บริเวณชายหาด ส่วนชนิดของปูที่ลอยมาเกยหาดไม่สามารถแยกแยะหรือระบุชนิดได้เนื่องจากเป็นวัยอ่อนมาก มีความยาวลำตัวประมาณ 2 มิลลิเมตร ซึ่งพบว่าลูกปูวัยอ่อนเหล่านี้ยังไม่ลงพื้นจึงลอยตามน้ำมา ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่ผ่านมาก็พบเห็นเพียงแต่ไม่หนาแน่นหรือมีปริมาณที่มากเหมือนครั้งนี้ โดยลูกปูเหล่านี้จะออกไข่ครั้งละมากๆ และปกติมันก็จะเป็นอาหารของสัตว์ทะเลต่างๆ ในชั้นนี้คงบอกได้ว่าคงเป็นเรื่องที่เกิดความไม่สมดุลของธรรมชาติในท้องทะเลไทย อาจเกิดจากทะเลไทยมีสัตว์น้ำลดลง จึงทำให้ลูกปูเหล่านี้รอดชีวิตมากขึ้น
“ไม่ได้ถือเป็นลางร้ายตามที่ชาวบ้านวิตกกังวล จนนำสู่การวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา เนื่องจากลูกปูที่เกยหาดมานี้ถือเป็นวัยอ่อนปูที่ไม่มีระบบประสาทในการรับรู้ความผิดปกติ หรือสามารถรับรู้คลื่นความถี่ที่ผิดปกติในท้องทะเล ซึ่งแตกต่างกับกรณีของโลมา หรือ วาฬ สรุปว่าเป็นปรากฏการณ์ที่บ่งบอกว่าวัยอ่อนของลูกปูเหล่านี้เหลือรอดจากวงจรชีวิตที่ปกติจะเป็นเหยื่อหรืออาหารของสัตว์น้ำต่างๆ ทั้งนี้จากรายงานของนักวิชาการที่ลงไปตรวจสอบสภาพแวดล้อมที่บริเวณชายหาดกะรนจุดที่ลูกปูนับล้านมาเกยหาดก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ ไม่ว่าจากการตรวจอุณหภูมิของน้ำ ความเค็มของน้ำ และแพงตอนต่างๆ ยืนยันว่าไม่ใช่ลางบอกเหตุใด ฝากประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจว่าอย่าได้วิตกและตื่นตระหนกกับข่าวลือต่างๆ ปรากฏการณ์นี้ในทางวิชาการถือเป็นเรื่องปกติเหมือนเช่นที่บางประเทศที่มีปูตัวแดงนับล้านๆตัวเดินข้ามถนน เช่นเดียวกับกรณีนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ” นายวรรณเกียรติ กล่าว.