มาร์คสั่งประเมินสถานการณ์ยึดหลักอพยพปชช.มอบ"องอาจ"ดูแลผู้อพยพยันไทยไม่ใช่คนเริ่ม
วันนี้ 22 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และผู้ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีทราบเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว และสั่งการในทันทีให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน และยึดหลักแผนอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
นายปณิธาน เชื่อมั่นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นฝ่ายปฏิบัติในพื้นที่จะสามารถเจรจาแก้ไขปัญหาได้
และเห็นว่าพื้นที่ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับแรงกดดันกรณีการส่งผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่ปราสาทพระวิหาร แต่ยอมรับว่า เบื้องต้นมีข้อมูลในพื้นที่เกี่ยวกับกรณีการเคลื่อนกำลังพลของกัมพูชา แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดที่เป็นชนวนของการปะทะกันที่เกิดขึ้น
จากเหตุการณ์ปะทะกันบริเวณแนวชายแดนปราสาทตาเมือน ปราสาทตาควาย ส่งผลให้ทหารพรานได้รับบาดเจ็บหลายนาย
โดยหนึ่งในผู้บาดเจ็บคือ ทหารพราน บุญชิด บัวงาม สังกัดร้อยทหารพราน 2606 ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากจุดปะทะที่ปราสาทตาควาย ทั้งนี้ มีการอพยพชาวบ้าน บริเวณแนวชายแดนใกล้พื้นที่ปะทะ ไปยัง ร.ร.บ้านตาลวก วัดตาลวก ร.ร.พนมดงรักวิทยา และที่ร.ร.บ้านโคกกลาง รวม 36 หมู่บ้าน จำนวน 7.000 คน
สถานการณ์ล่าสุด ทหารกัมพูชา เพิ่มความถี่ในการยิงมากขึ้น
โดยใช้ปืนเล็ก ปืนใหญ่ ค.81 และ M 60 ได้เริ่มที่ช่องกร่าง อ.พนมดงรัก เลยมาจนถึงปราสาทตาเหมือนธม ปราสาทตาควาย ขณะนี้ฝั่งไทย ได้ยิงปืน ค.105 ตอบโต้ ประมาณ 4-5 นัด เพราะทราบพิกัดทางทหารที่แน่ชัดว่า ฐานที่มั่นปืนใหญ่ของกัมพูชาอยู่ตรงไหน คาดว่าการยิงตอบโต้ของทหารไทยไม่พลาดเป้า และทหารกัมพูชา เกรงที่จะมาต่อกลอนกับทหารไทย เนื่องด้วย ทหารไทยมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหนือกว่า แต่สถานการณ์ขณะนี้การยิงปะทะกันยังไม่ยุติแต่อย่างใด และมีการยิงโต้ตอบกันเป็นระยะ
นายกฯมอบ"องอาจ"ดูแลผู้อพยพยันไทยไม่ใช่คนเริ่ม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับข้อเท็จจริงเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว ซึ่งมีการประสานจนเหตุการณ์ขณะนี้ยุติลง และกำลังเร่งตรวจสอบในแง่ผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด พร้อมมอบหมายให้ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ดูแลประชาชนที่อพยพออกจากพื้นที่ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ฝ่ายไทยไม่มีเจตนาเข้าไปดำเนินการก่อนแน่นอน โดยต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดอีกครั้ง