มาร์ค ค้าน ปตท.ขยับราคาเอ็นจีวี

"นายกฯ อภิสิทธิ์" ค้าน ปตท. เล็งขยับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี 

วันนี้ (21 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มีความกังวลในการแบกรับภาระของราคาก๊าซเอ็นจีวี  ว่า ได้มีการคุยกันไปแล้ว โดยทัศนะเห็นว่าถ้าจะส่งเสริมเรื่องการใช้ก๊าซเอ็นจีวี ก็ต้องดูความพอดี ส่วนที่ต้องการให้ขยับราคานั้นก็เข้าใจดี เพราะอาจนำไปสู่การกระตุ้นการลงทุนเรื่องสถานีบริการ แต่ขณะเดียวกันถ้าราคาขยับใกล้กับราคาของก๊าซแอลพีจี จะมีผลหรือไม่ แต่ถ้าจะมาตั้งเงื่อนไขว่าอยากจะขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี แล้วจะมาขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีด้วย ก็คงไม่สมเหตุสมผล

ส่วนการที่ ปตท.กังวลว่าผู้ประกอบการรายย่อยอาจจะฟ้องร้องนั้นก็เป็นเรื่องความร่วมมือ และเขาก็ต้องชั่งใจ เพราะถ้าราคาก๊าซเอ็นจีวีสูงเกินไป คนก็ใช้น้อย เพราะนี่เป็นการลงทุนระยะยาวเหมือนกัน

อย่างไรก็ตามในส่วนสถานะของ ปตท.ที่เป็นทั้งบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ยังมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจที่ไม่ควรค้ากำไร จึงเสนอและผลักดันว่าควรใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าเข้าไปดูแลได้
              
ด้าน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองโฆษกด้านเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่รัฐบาลประกาศอุ้มราคาน้ำมันดีเซล อยู่ที่ลิตรละ 30 บาท ว่า จะไม่กระทบกับการเบิกจ่ายงบประมาณปี 54 เนื่องจาก รัฐบาลได้ประมาณการการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นถึง 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งการที่ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าการอุ้มราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซแอลพีจีจะส่งผลให้ต่อประมาณการภาวะเงินเฟ้อปรับลกลง 0.5 เปอร์เซ็นต์ จึงเชื่อว่าในที่สุดจะทำให้ ธปท. จะตัดสินใจตรึงดอกเบี้ยเอาไว้ จึงเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าวิธีทางที่พรรคประชาธิปัตย์รัฐบาลตัดสินใจดำเนินการเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ส่วน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์

แถลงถึงความคืบหน้าในยุทธศาสตร์เดินหน้าเพื่อประชาชนของพรรคประชาธิปัตย์ว่า จากยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลได้ทำแล้ว กำลังทำและจะทำต่อ ซึ่งพบว่าสามารถแก้ปัญหาค่าครองชีพให้กับประชาชนได้ เช่นรถเมล์ฟรี พยุงราคาก๊าซหุงต้ม เรียนฟรี 15 ปี ตรึงราคาน้ำมันดีเซล รักษาพยาบาลฟรี โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว.