"เตือนคนไทย กินมาก ระวังอ้วน"
เตือนคนไทยอย่า กิน ฉลองปีใหม่มากเกินไป อาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน -อ้วน -โรคหัวใจสูงขึ้น เผยผลวิจัย วัฒนธรรมการกินของคนไทย ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมามีพฤติกรรมบริโภคน้ำตาลเกินพอดี เหตุเพราะการเติบโตของเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ทำให้คนไทยเสียนิสัยนิยมบริโภคอาหารฟาสต์ฟู้ด น้ำอัดลม อาหารสำเร็จรูปสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้อัตราการป่วยด้วยโรคที่เกิดจากการกิน โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงขึ้นตามไปด้วย แนะคนไทยเปลี่ยนทัศนคติการกินใหม่ เน้นปรุงอาหารกินเอง ใช้น้ำตาลพื้นบ้านที่มีสารอาหารอื่นๆแทนน้ำตาลทราย
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วง บริโภคนิยม ของคนไทยทั้งประเทศทั้งอาหารคาว หวานที่ทุกครัวเรือนต่างซื้อหามาเฉลิมฉลองกัน จนทำให้หลงลืมไปว่าการบริโภคที่เกินพอดีนั้นอาจทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ตามมามากมาย โดยเฉพาะการบริโภค น้ำตาล
นายชาติชาย มุกสง นักวิจัยอาวุโสสำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ ผู้ทำวิจัยเรื่องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริโภคที่มีผลต่อสุขภาพ ศึกษากรณีน้ำตาลระหว่าง พ.ศ.2504-2539 ภายใต้การสนับสนุนของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินน้ำตาลของคนไทยเริ่มตั้งแต่ประมาณปี 2504 ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมืองครั้งสำคัญคือการเริ่มแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับแรก ทำให้มีการสนับสนุนการปลูกพืชเศรษฐกิจหลายชนิด โดยเฉพาะ อ้อย ซึ่งเป็นพืชเงินสด (cash crop) ที่ให้ผลผลิตเร็วและมีราคาในตลาดโลกสูงเมื่อผ่านการผลิตเป็นน้ำตาลทราย
ต่อมาเมื่อมีผลผลิตอ้อยจำนวนมากจนทำให้น้ำตาลทรายล้นตลาดโลก ทำให้น้ำตาลราคาถูกจนอุตสาหกรรมการปลูกอ้อยจะประสบภาวะขาดทุน จึงต้องออกนโยบายส่งเสริมการบริโภคน้ำตาลทรายภายในประเทศเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมน้ำตาล จนกระทั่งในต้นทศวรรษ 2510 เมื่อโรงงานน้ำตาลทรายของไทยสามารถผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ซึ่งสามารถนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มสำเร็จรูปได้อย่างต่อเนื่อง นับเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริโภคน้ำตาลที่มีนัยสำคัญยิ่งของคนไทย