กรมอุตุฯ เตือนระวังพายุฤดูร้อนในหลายจังหวัด

กรุงเทพฯ, ภูมิภาค 19 เม.ย. - ยังคงมีคำเตือนให้ระวังพายุฤดูร้อนในหลายจังหวัด ขณะที่บางพื้นที่เผชิญปัญหาภัยแล้ง ส่งผลกระทบต่อประชาชน และคุกคามการทำการเกษตร

กรมอุตุนิยมวิทยายังคงมีประกาศเตือนให้ระมัดระวังพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในหลายภาคทางตอนบนของประเทศในวันนี้จนถึงวันพรุ่งนี้ ซึ่งเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา บางพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร อากาศแปรปรวน ท้องฟ้ามืดครึ้มและมีฝนตกหนัก

ขณะที่พายุฤดูร้อนพัดถล่มที่จังหวัดพิจิตรตั้งแต่เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

โดยฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องนานกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้ถนนหลายสายในย่านเศรษฐกิจการค้ากลางใจเมือง และสถานที่ราชการมีน้ำท่วมสูงเกือบ 50 เซนติเมตร  ขณะที่พื้นที่นาปรังกว่า 20 ไร่ ริมถนนสายพิจิตร – ท่าฬ่อ ที่กำลังออกรวงใกล้เก็บเกี่ยว ได้รับความเสียหายจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและลมพายุพัดโหมกระหน่ำอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ต้นข้าวล้มและรวงเมล็ดข้าวจมลงไปในน้ำ

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กำชับให้เตรียมพร้อมรับมือปัญหาภัยแล้งและพายุฤดูร้อน ที่คุกคามในพื้นที่อยู่ในขณะนี้

โดยปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาว เหลืออยู่เพียงร้อยละ 32 หรือประมาณ 437 ล้านลูกบาศก์เมตร  ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง รวมถึงผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามและปลากระชังใน 10 อำเภอ อีกทั้งระยะนี้สภาพอากาศวิปริต มีลมกระโชกแรง และยังจะเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มได้ จึงประกาศเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการออกไปในที่โล่งขณะที่มีฝนฟ้าคะนอง

ส่วนที่บุรีรัมย์แล้งหนัก ประชาชนขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคกว่า 154,000 ครัวเรือน จังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว 12 อำเภอ  ขณะเดียวกันยังเตรียมการรับมือผลกระทบจากพายุฤดูร้อน เพื่อลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น

ขณะที่ชาวบ้านตำบลป่าคาย อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์

ซึ่งเป็นพื้นที่แล้งซ้ำซาก ไม่มีแหล่งน้ำ ต้องออกตระเวนไปตามทุ่งนาและดินแตกระแหง เพื่อเก็บผักที่ขึ้นเองตามธรรมชาติมารับประทาน เช่น ผักกาดนา ผักจุมปา ผักแว่น ผักบุ้ง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งหากเก็บได้มาก ก็สามารถนำไปขายหารายได้จุนเจือครอบครัวในระหว่างที่ว่างเว้นจากการทำนา เพราะไม่มีน้ำ.-สำนักข่าวไทย