งามไส้คนคอนโวยเงินน้ำท่วมสาทิตย์ยันโปร่งใส

นายกสมาคมกำนันฯเผยคนคอนนัดรวมตัวร้องไม่ได้รับเงินเยียวยาน้ำท่วม“สาทิตย์”ยันโปร่งใสอัดเล่นการเมือง

วันนี้ 11 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย เปิดเผย สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สำรวจมาแล้วมามีคนเดือดร้อนในพื้นที่ กว่า 78,000 ราย ซึ่งก็ทำการสำรวจตามหลักเกณฑ์แล้ว แต่จ่ายแค่ 30,000 กว่ารายเท่านั้น ที่สำคัญคือ บางรายบ้านติดกัน มีหลังคาติดกันแต่จ่ายหลังที่ 1 แต่หลังที่ 2 กลับไม่ได้ ก็เกิดความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น ซึ่งตนเองได้ส่งรายชื่อคนเสียหายตามขั้นตอนหมดแล้ว ทั้งทางจังหวัด ก็รับทราบ คิดว่าการตัดสินว่าใครได้ไม่ได้นั้น อยู่ที่สำนักนายกฯ โดยใช้ดาวเทียมจัดการ ได้สอบถามไปยัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐมนตรี โดยตรงเลย ก็ได้รับคำตอบว่าเอาพื้นที่เสียหายจริง จากการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมเท่านั้น สรุปว่า หลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีให้มานั้น กว้างเกินไป

สำหรับการรวมตัวกันในวันนี้ จะเรียกร้อง 2 ข้อ คือ การรวบรวมรายชื่อไปนั้น จะจ่ายเงินเยียวยาให้หรือไม่

ถ้ารู้ว่าใครตัดเงินเยียวยาแล้วจะถามว่า จะพึ่งดาวเทียมไม่ต้องใช้กำนันผู้ใหญ่บ้านใช่หรือไม่ ทำไมไม่เชื่อคนในพื้นที่ว่า เขาสำรวจความเสียหายจริง ถ้ายังตอบไม่ชัดเจน จะขอดูมติของชาวบ้านว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป จะมากรุงเทพฯหรือไม่นั้น ก็ต้องดูมติอีกครั้ง โดยวันนี้คาดว่าจะมีชาวบ้านมารวมตัวกันหลักหมื่นคนแน่ โดยแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ยืนยันว่า จะไม่ปิดศาลากลางหรือสถานที่สำคัญแน่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.)
 
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ชาวบ้าน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เตรียมรวมตัวประท้วงที่ศาลากลางกล่าวหารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ตัดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาครอบครัวละ 5 พันบาทในปี 53 และโยกงบไปช่วยเหลือประชาชนที่จ.ตรังแทน ว่า การจ่ายเงินเยียวยาครอบครัวละ 5 พันบาทในปี 53 รัฐบาลแบ่งจ่ายออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ประสบภัยน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ในพื้นที่ภาคอีสานและภาคกลางบางจังหวัด 2.กลุ่มที่ประสบภัยน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. และ 3.กลุ่มที่ประสบภัยน้ำท่วมก่อน 10 ต.ค.ในบางจังหวัด ซึ่งรวมทั้งสิ้น 1 ล้านครัวเรือนเศษ โดยให้แต่ละจังหวัดประเมินตัวเลขกันมา เช่น จ.นครศรีธรรมราช ขอมารอบแรก 2.9 หมื่นครัวเรือน จ.พัทลุง 3 หมื่นครัวเรือน จ.สงขลา เกือบ 2 แสนครัวเรือน ซึ่งจ่ายให้ครบแล้ว 100 %
 
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามมีบางจังหวัดขอแล้วจ่ายให้ไม่เต็มกรอบ เพราะเมื่อไปตรวจสอบจริง ไม่ตรงกับยอดที่ประมาณการณ์ครั้งแรก

เช่น จ.นนทบุรี ประเมินว่าน่าจะท่วม 6 หมื่นครัวเรือน แต่ท่วมจริง 2 หมื่นครัวเรือน และหลังจากจ่ายรอบแรกไปครบแล้วในปลายเดือน พ.ย. ก็มีการส่งยอดมาเพิ่ม เช่น จ.นครศรีธรรมราช ส่งยอดมาเพิ่มอีก 7 กว่าหมื่นครัวเรือน จ.พัทลุง ส่งมาอีก 4 หมื่นกว่า จ.สงขลาเพิ่มอีก 1.7 แสนกว่าครัวเรือน เราจึงได้ตั้งคณะอนุกรรมการที่ประกอบด้วย กรมป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (ปภ.) คณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.)  สตง. และกรมบัญชีกลาง ขึ้นมาตรวจสอบ โดยดูภาพถ่ายผ่านดาวเทียม ซึ่งคณะอนุกรรมการก็ได้ปรับลดยอดลงในทุกจังหวัด เช่น จ.นครศรีธรรมราช ปรับเหลือ 4 หมื่นครัวเรือน รวมทั้ง จ.ตรัง แต่เราก็ยังจ่ายเงินไม่ได้ เพราะครั้งแรกขอมาเกินกรอบแล้ว จึงได้ขออนุมัติครม.ให้ถัวเฉลี่ย เอาจากจังหวัดที่จ่ายไม่เต็มเพราะประเมินไว้ไม่ตรงกับของจริง มาจ่ายให้จังหวัดอื่น จึงได้จ่ายให้กับ จ.สงขลาไปประมาณ 1.7 แสนครัวเรือน จ.นครศรีธรรมราช 4 หมื่นครัวเรือน รวมทั้งจังหวัดอื่น ๆ ซึ่งขณะนี้จ่ายให้ครบแล้วล้านครัวเรือนเศษที่มีการตั้งยอดไว้แล้ว เหลือที่ตกค้างบ้างคือคนที่มีชื่อแล้ว แต่ยังไม่มารับ

 “ไม่มีประเภทที่ถัวเฉลี่ยไปจ่ายให้ จ.ตรังแน่ มันทำไม่ได้ แต่มีบางจังหวัดที่ไปเจอแล้ว อย่างกรณีของกำนันยงยศ (แก้วเขียว) ที่ อ.เชียรใหญ่ เราก็ให้ ปภ.ตรวจสอบพบว่ากำนันเซ็นรับรองมาเกือบทั้งตำบล แต่ ปภ.ไปตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมมีน้ำท่วมบางส่วนเท่านั้น จึงได้ปรับลดยอดลง เรายืนยันว่ายอดที่จ่ายให้ผู้ประสบภัยในอ.เชียรใหญ่นั้นถูกต้อง แต่เรายินดีที่จะให้มีการตรวจสอบซ้ำอีกครั้งถ้าคิดว่าของท่านถูกต้อง และที่ขอเพิ่มมาก็ต้องตรวจสอบก่อน แต่ถ้าตรวจสอบพบว่ากำนันยงยศเซ็นรับรองบ้านที่น้ำไม่ท่วมมา ท่านจะต้องรับผิดทางกฎหมายด้วย เพราะถือเป็นการแจ้งความเท็จ ขณะนี้มีการส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ไปแล้วในบางจังหวัดภาคกลาง” นายสาทิตย์  กล่าว และว่ากำนันยงยศไม่ควรเอาเรื่องน้ำท่วมมาเป็นเรื่องการเมือง เพราะมันเป็นเรื่องของข้อเท็จจริง ถ้าเข้าหลักเกณฑ์ก็มีสิทธิได้รับ ควรเอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน เมื่อถามว่ากำนันยงยศเป็นหัวคะแนนของพรรคไหน นายสาทิตย์ กล่าวว่า “ให้ไปถาม พล.อ.ชวลิต (ยงใจยุทธ) ดู”