วันที่ 6 เม.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ กล่าวถึงกรณีน้ำมันถั่วเหลืองขึ้นราคาขวดละ 9 บาท
ทำให้ประชาชนเดือดร้อนหนักเพิ่มขึ้นว่า ปัญหานี้เกิดจากราคาต้นทุนของถั่วเหลืองซึ่งเกิดผลกระทบตั้งแต่ตอนที่ราคาน้ำมันปาล์มเขย่งราคากันอยู่ ทำให้ราคาน้ำมันมันถั่วเหลืองและน้ำมันปาล์มเหลื่อมราคากัน กระทรวงพาณิชย์รายงานปัญหาดังกล่าวให้ทราบ พยายามชะลอไม่ให้มีการขึ้นราคามาตลอด แต่ที่ตัดสินใจครั้งนี้คงไม่ไหวแล้ว เคยบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าสินค้าอุปโภคบริโภคบางตัว ไม่สามารถยันราคาได้ตลอดไปเพราะจะเกิดปัญหา การบิดเบือนโครงสร้างทางการตลาดและปัญหาขาดแคลนสินค้า ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินนโยบายเพิ่มรายได้ ให้กับประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหามากกว่า
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เห็นใจทุกคนเพราะเป็นสิ่งของที่มีความจำเป็นในชีวิต ถือเป็นเรื่องยากที่เราจะยันราคาน้ำมันถั่วเหลืองไว้ได้
ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มอยู่ขวดละ 47 บาท และ ครม. พิจารณาแล้วเห็นว่ายังต้องคงราคาน้ำมันปาล์มไว้ที่ขวดละ 47 บาท เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องผลผลิตที่ยังไม่ทราบว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมมากน้อยแค่ไหน หากสถานการณ์คลี่คลายทุกอย่างอาจจะค่อยๆปรับราคาลงได้ แต่ต้องขอดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง ขณะนี้คิดว่าราคาน้ำมันถั่วเหลืองคงไม่ขึ้นอีกแล้ว
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะดูแลอย่างไรเพราะมีข่าวว่าสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทอื่นเตรียมขึ้นราคาตามมา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะมีนมที่เราต้องซื้อน้ำนมดิบในราคาสูงขึ้น ส่วนปุ๋ยนั้นตนได้ย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลแล้วเพราะถือว่าเป็นต้นทุนที่สำคัญในการผลิต
ด้านนางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าาวว่า กระทรวงพาณิชย์อนุมัติปรับขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวด ลิตรละ 9 บาท จากเดิมราคาขวดละ 46 บาท เป็นราคาขวดละ 55 บาท มีผลพรุ่งนี้(6 เม.ย.)