อย.เตรียมประกาศควบคุมอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่น พบปนเปื้อนปรับ 5 หมื่นบาท

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 1 เมษายน

ถึงมาตรการการตรวจสอบการนำเข้าอาหารจากประเทศญี่ปุ่น หลังจากเพิ่มการตรวจเข้มสารซีเซียม 134 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีการตรวจเพียงสารซีเซียม 137 และไอโอดีน 131 ว่า นอกจากจะสุ่มตรวจอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่นทางด่านอาหารและยาทั่วประเทศแล้ว ยังประสานกับกรมศุลกากรให้ตรวจเข้มการนำเข้าอาหารจากผู้โดยสารที่เดินทางมาจากญี่ปุ่นเป็นพิเศษ หากพบว่านำเข้าอาหารมาให้อายัดไว้ก่อน เพื่อตรวจวิเคราะห์ เนื่องจากขณะนี้ในญี่ปุ่นการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีเริ่มกระจายวงกว้างมากขึ้น
 

เลขาธิการ อย.กล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบตามห้างสรรพสินค้าว่า
 
มีอาหารญี่ปุ่นชนิดใดที่นำเข้ามาโดยไม่ผ่านผู้ประกอบการนำเข้าอาหารที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ อย.ที่มีอยู่ประมาณ 100 บริษัท รวมถึงภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น ที่ต้องไปดูว่ารับวัตถุดิบมาจากผู้นำเข้ารายใด และในการประชุมคณะกรรมการอาหารวันที่ 7 เมษายนนี้ จะหารือถึงการกำหนดปริมาณการปนเปื้อนของสารไอโอดีน 131 ซีเซียม 137 และ ซีเซียม 134 คาดว่าน่าจะกำหนดให้ไม่เกิน 500 แบคเคอเรลต่อกิโลกรัม หรือประมาณครึ่งหนึ่งของมาตรฐานอาหารสากล (Codex) ที่กำหนดไว้
 

นพ.พิพัฒน์กล่าวว่า หลังจากการประชุมคณะกรรมการอาหารแล้ว จะออกประกาศควบคุมการนำเข้าอาหารจากประเทศญี่ปุ่น เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้มีผลบังคับใช้ทันที หากตรวจพบว่ามีการปนเปื้อนของสารที่ควบคุมจากอาหารที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ผู้นำเข้าจะถูกปรับ 50,000 บาท


นพ.พิพัฒน์กล่าวว่า สำหรับการตรวจหาสารกัมมันตรังสีในอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่นนั้น ขณะนี้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ยังตรวจได้

แต่หากมีปริมาณตัวอย่างอาหารที่ส่งตรวจเพิ่มขึ้น อาจต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นช่วยตรวจ ทราบว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กำลังเตรียมจัดซื้อเครื่องตรวจหาสารกัมมันตรังสีมา ใช้งบประมาณ 5-10 ล้านบาท อยากขอความร่วมมือจากประชาชนที่เดินทางมาจากญี่ปุ่น ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรซื้ออาหารจากญี่ปุ่นเข้ามาในช่วงนี้ เพื่อความปลอดภัย


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์