สธ.เตรียมตรวจสุขภาพคนไทยหลังกลับจากญี่ปุ่น ย้ำอย่าตื่นตระหนกกินไอโอดีนเม็ดล่วงหน้า

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการเฝ้าระวังความปลอดภัยและการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีภัยพิบัติที่ประเทศญี่ปุ่น ว่าที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการสุ่มตรวจอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 5 วันแล้ว แต่ยังไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนกเรื่องการกินไอโอดีนเม็ด เพื่อป้องกันสารกัมมันตรังสี เนื่องจากขณะนี้ยังไม่พบว่ามีปริมาณกัมมันตรังสีที่เป็นอันตรายต่อประชาชน ดังนั้น การสะสมไอโอดีนเม็ดหรือรับประทานไอโอดีนเม็ดล่วงหน้าจึงไม่มีความจำเป็น 
      
นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการประกาศขายไอโอดีนเม็ดทางเว็บไซต์ ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ
 
เพราะไม่จำเป็นต้องซื้อมากักตุนไว้ เนื่องจากการรับประทานไอโอดีนเม็ดชนิดนี้ ซึ่งมีปริมาณไอโอดีนเข้มข้นกว่าปกติถึง 1,000 เท่า หากรับประทานโดยไม่จำเป็นจะมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว ทำให้เกิดแผล โดยมี 4 กลุ่มที่ห้ามรับประทาน ได้แก่ 1.กลุ่มที่แพ้ไอโอดีน 2.กลุ่มที่มีแผลที่ผิวหนัง 3.หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร และ 4.กลุ่มที่เป็นโรคธัยรอยด์เป็นพิษ คนที่จำเป็นต้องรับประทานคือ คนที่จะเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงตามที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเท่านั้น
    
"สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นด้วยเครื่องซี 130 จำนวน 46 คน สธ.ได้ฝากเอกสารไว้บนเครื่องซึ่งจะมีคำแนะนำการปฏิบัติตัว และหมายเลขสายด่วนให้คำปรึกษาของโรงพยาบาลราชวิถี ทางหมายเลข 0-2206-2952 และ 0-2354-8108 ต่อ 6622 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จะตรวจวัดปริมาณสารกัมมันตรังสี โดยได้ปรับตั้งค่าจาก 20 เท่าของปริมาณในสิ่งแวดล้อมลดลงเหลือ 5 เท่า เพื่อเพิ่มความปลอดภัยแก่คนไทยที่กลับมาจากญี่ปุ่น หากตรวจพบผู้โดยสารที่มีปริมาณสารกัมมันตรังสีเกินค่าที่ตั้งไว้ จะนำเข้าสู่กระบวนการชำระล้างกัมมันตรังสีทันที" รัฐมนตรี สธ.กล่าว