รถกรุงหายทั้งปี718คัน-โตโยต้าแชมป์

บช.น.สรุปสถิติรถหายปีปีเดียวรถยนต์หาย 718 คัน จยย.หาย 5 พันกว่าคัน

ตามคืนได้แค่ 5-6% เผยโตโยต้าตกเป็นเป้าไล่ล่าของแก๊งขโมยรถ เพราะหายไปแล้ว 228 คันมากกว่ายี่ห้ออื่น ส่วนมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าหายสูงสุดกว่า 3 พันคัน ชี้ตามตรอกซอกซอยเป็นจุดเสี่ยงรถหายสูงสุด ส่วนฤกษ์โจรเป็นเวลา 20.00-24.00 น. เพราะรถหายสูงสุด

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น.และในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถกองบัญชาการตำรวจนครบาล (หน.ศปจร.น.) เปิดเผยสถิติการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจ นครบาล ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2553-31 ธ.ค. 2553 หลังจากช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตำรวจเร่งรัดปราบปรามแก๊งลักรถเหล่านี้ให้ลดน้อยลงตลอด รวมถึงติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ เพราะถือเป็นอาชญากรรมที่กลุ่มโจรมักอาศัยความประมาทของประชาชนที่จอดรถในที่เปลี่ยวปลอดคน กลายเป็นช่องโหว่ให้ผู้ร้ายฉวยโอกาสโจรกรรมรถอย่างง่าย ดาย

พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวว่า จากการรวบรวมสถิติรถหายและสามารถจับกุมได้คืนของบก.น.1-9 ในปี 2553 ที่ผ่าน มีดังนี้ อันดับที่ 1 บก.น.2 รถยนต์หาย 66 คัน จับกุมได้คืน 1 คัน หรือร้อยละ 1.5 รถปิกอัพหาย 87 คัน สามารถจับกุมคืนได้ 3 คัน หรือร้อยละ 3.4 รถตู้ไม่มีการก่อเหตุโจรกรรม และรถจักรยานยนต์หาย 963 คัน สามารถจับกุมคืนได้ 57 คัน หรือร้อยละ 5.9

อันดับที่ 2 บก.น.4 รถยนต์หาย 64 คัน จับกุมได้คืน 8 คัน หรือร้อยละ 12.5 รถปิกอัพหาย 73 คัน สามารถจับกุมคืนได้ 4 คัน หรือร้อยละ 5.5 รถตู้หาย 3 คัน ไม่สามารถจับกุมคืนได้ และรถจักรยานยนต์หาย 810 คัน สามารถจับกุมคืนได้ 45 คัน หรือร้อยละ 5.6 และอันดับที่ 3 บก.น.5 รถยนต์หาย 46 คัน จับกุมได้คืน 4 คัน หรือร้อยละ 8.7 รถปิกอัพหาย 38 คัน ไม่สามารถจับกุมคืนได้ รถตู้หาย 1 คัน ไม่สามารถจับกุมคืนได้ และรถจักรยานยนต์หาย 865 คัน สามารถจับกุมคืนได้ 45 คัน หรือร้อยละ 5.2

พล.ต.ต.สุเมธกล่าวด้วยว่า สำหรับรถ ยนต์ที่ถูกโจรกรรมในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ มีรถเก๋งหาย 300 คัน

จับกุมได้คืน 26 คัน หรือร้อยละ 8.7 รวมรถปิกอัพหาย 409 คัน จับกุมได้คืน 13 คัน หรือร้อยละ 3.2 รวมรถตู้หาย 9 คัน ไม่สามารถจับกุมคืนได้ รวมแล้วมีรถยนต์หาย 718 คัน ได้คืน 39 คัน หรือร้อยละ 5.4 จำแนกตามยี่ห้อดังนี้ อันดับหนึ่ง โตโยต้า 228 คัน คิดเป็นร้อยละ 31.8 อันดับสอง อีซูซุ 210 คัน คิดเป็นร้อยละ 29.2 และอันดับสาม นิสสัน 84 คัน คิดเป็นร้อยละ 11.7

ส่วนช่วงเวลาที่รถยนต์ถูกโจรกรรม อันดับที่ 1 ตั้งแต่เวลา 20.01-24.00 น. 196 คัน คิดเป็นร้อยละ 27.3 อันดับที่ 2 ตั้งแต่เวลา 16.01-20.00 น. 169 คัน คิดเป็นร้อยละ 23.5 และอันดับที่ 3 ตั้งแต่เวลา 00.01-04.00 น. 166 คัน คิดเป็นร้อยละ 23.1

และสถานที่ที่มักถูกโจรกรรมรถยนต์ อันดับที่ 1 ตามถนนและตรอกซอย 320 คัน คิดเป็นร้อยละ 44.6 อันดับที่ 2 สวนสาธารณะ เช่น สนามกีฬา สวนหย่อม ท่าน้ำ ชุมชนต่างๆ 217 คัน คิดเป็นร้อยละ 30.2 และอันดับที่ 3 ตามเคหสถาน บ้านเช่า ห้องเช่า 120 คัน คิดเป็นร้อยละ 16.7

พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในส่วนของรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ มี 5,504 คัน ได้คืน 335 คัน หรือร้อยละ 6.1 จำแนกตามยี่ห้อดังนี้ อันดับที่หนึ่ง ฮอนด้า 3,033 คัน คิดเป็นร้อยละ 55.1 อันดับสอง ยามาฮ่า 2,052 คัน คิดเป็นร้อยละ 37.3 และอันดับสาม คาวาซากิ 131 คัน คิดเป็นร้อยละ 2.4

"ส่วนช่วงเวลาที่รถจักรยานยนต์ถูกโจร กรรม อันดับที่ 1 ตั้งแต่เวลา 20.01-24.00 น. 1,516 คัน คิดเป็นร้อยละ 27.5 อันดับที่ 2 ตั้งแต่เวลา 00.01-04.00 น. 1,292 คัน คิดเป็นร้อยละ 23.5 และอันดับที่ 3 ตั้งแต่เวลา 16.01-20.00 น. 1,290 คัน คิดเป็นร้อยละ 23.4 และสถานที่ที่มักถูกโจรกรรมรถจักร ยานยนต์ อันดับที่ 1 ตามถนนและตรอกซอย 2,518 คัน คิดเป็นร้อยละ 45.7 อันดับที่ 2 สวนสาธารณะ เช่น สนามกีฬา สวนหย่อม ท่าน้ำ ชุมชนต่างๆ จำนวน 1,630 คัน คิดเป็นร้อยละ 29.6 และอันดับที่ 3 ตามเคหสถาน บ้านเช่า ห้องเช่า 1,062 คัน คิดเป็นร้อยละ 19.3" หน.ศปจร.น.กล่าว