เฮ!เตรียมสั่งลดน้ำมันปาล์มขวด 5 บาท

"พรทิวา" สั่งลดราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวดทันที 5 บาท หลังผลผลิตทะลัก คาดประกาศข่าวดีได้สัปดาห์หน้านี้ ด้านเอกชน แผ่นเสียงตกร่อง เตรียมขอปรับราคาสินค้า

วันนี้ (17 มี.ค.) นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ ในฐานะโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน เรียกประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาน้ำมันพืชบริโภคในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มชนิดบรรจุขวดลงทันทีขวดละ 5 บาท ส่งผลให้ราคาจำหน่ายปลีกจะลดลงจากขวดลิตรละ 47 บาท เหลือ 42 บาท เพื่อจะนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงพิจารณาในวันที่ 24 มี.ค.ต่อไป

ทั้งนี้เนื่องจากขณะนี้น้ำมันปาล์มดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศล็อตสอง 3 หมื่นตัน
 
ได้มีการนำมาบรรจุใส่ขวดฝาสีชมพูหมดแล้ว เหลือเพียงแค่กระระบายตามช่องทางต่าง ๆ เท่านั้น ประกอบกับ ปริมาณผลผลิตปาล์มดิบภายในประเทศได้ทยอยออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ทำให้มีผลผลิตเพียงพอต่อการนำไปผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวด โดยล่าสุดราคาน้ำมันปาล์มดิบมีราคาตกอยู่ที่ลิตรละ 32.50-33 บาท  ทำให้รัฐบาลไม่ต้องชดเชยให้อีก

"วันนี้ผลผลิตปาล์มออกสู่ตลาดมาก ราคาทั้งในประเทศ และตลาดมาเลเซียได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนในการผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดได้ลดลงตามไปด้วย ซึ่งรมว.พาณิชย์ ได้สั่งการว่าต้องลดราคาลงทันที หลังฝาสีชมพูผลิตหมด และผู้ผลิตต้องผลิตน้ำมันปาล์มของตัวเองตามปกติ โดยจำหน่ายราคาตามต้นทุนที่แท้จริงด้วย โดยน้ำมันปาล์มฝาจุกชมพู จะยอมให้ขายในราคาขวดละ 47 บาทได้ต่อไปจนกว่าของจะหมด เพราะถือเป็นสินค้าต้นทุนเก่าที่รัฐบาลชดเชยอยู่" นางพรทิวา กล่าว

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า หากต้นทุนผลิตน้ำมันปาล์มยังคงลดลงต่อเนื่อง ก็จะพิจารณาขอให้มีการปรับลดราคาจำหน่ายปลีกลงอีกตามต้นทุน
 
เพราะมีข้อตกลงชัดเจนไว้ในช่วงที่ให้มีการปรับขึ้นราคาว่า หากต้นทุนลดลง ผู้ผลิตต้องปรับลดราคาลงตาม สำหรับสถานการณ์ความตึงตัวของน้ำมันปาล์ม ขณะนี้ได้เริ่มคลายความตึงตัวลงแล้ว หลังจากที่รัฐบาลได้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศมาบรรจุขวดรวม 6 หมื่นตัน โดยบรรจุขวดทั้งฝาสีฟ้าและสีชมพู ซึ่งล่าสุดปริมาณน้ำมันปาล์มได้มีวางจำหน่ายเป็นปกติ และประชาชนสามารถหาซื้อได้โดยง่าย ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มในปัจจุบัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มี.ค.2554 ราคารับซื้อผลปาล์ม (17%) อยู่ที่ กก.ละ 5.00-5.10 บาท ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจาก กก.ละ 8.49 บาท ในเดือน ก.พ.54 สำหรับน้ำมันปาล์มดิบ มีการซื้อขายน้อย ราคาอยู่ที่ กก.ละ 32.50-33 บาท เนื่องจากโรงงานผลิตไบโอดีเซลมีน้ำมันปาล์มดิบเพียงพอสำหรับการผลิตไบโอดีเซลบี 2 จึงชะลอการซื้อ ส่วนโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม มีน้ำมันปาล์มจากส่วนที่นำเข้าและสต็อกคงเหลือ สำหรับราคามาเลเซีย ณ วันที่ 16 มี.ค.54 ราคาลงมาอยู่ที่ กก.ละ 33.32 บาท

ด้าน นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส นายกสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย (สพท.) กล่าวว่า ในเดือน เม.ย.นี้คาดว่าราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภค

ทั้งสบู่ แชมพู และผงซักฟอก จะปรับขึ้นราคาอีก 25% ตามราคาน้ำมันปาล์มในประเทศที่ขึ้นราคาเป็น 47 บาทต่อลิตรแล้ว เนื่องจากกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคดังกล่าวใช้วัตถุดิบหลักจากน้ำมันปาล์ม จึงต้องขอขึ้นราคาตามไปด้วย และประเมินว่า สินค้ากลุ่มเสี่ยงที่จะมีโอกาสขาดแคลนในตลาดต่อไป คือ กะทิสำเร็จรูป เพราะวัตถุดิบหลักผลิตสินค้าจากมะพร้าว มีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลงส่วนปัญหาน้ำมันปาล์ม ในขณะนี้มองว่ากลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว เห็นได้จากในทุกสาขาของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น มีน้ำมันปาล์มจุกสีชมพู ราคา 47 บาทต่อลิตรจำหน่ายแล้ว 

สำหรับภาพรวมตลาดค้าปลีกในปีนี้ประเมินว่า จะมีความคึกคักมากและเติบโตจากปกติ 5% เป็นผลมาจากการเลือกตั้งที่ช่วยกระตุ้นธุรกิจค้าปลีก จากในช่วงก่อนหน้านี้ที่คาดว่าภาพรวมธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อจะเติบโต 5-10% และห้างสรรพสินค้าจะเติบโตมากกว่า 10% ส่วนภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมายังเติบโตได้ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง.