จ.สุราษฎร์ธานี สภาพอากาศมีฝนตกเป็นบางช่วง ส่วนในท้องทะเลมีคลื่นลมแรง ทำให้เรือประมงซึ่งจอดหลบคลื่นและลมอยู่บริเวณอ่าวโฉลกหลำ ม.7 ต.โฉลกหลำ อ.เกาะพะงัน ล่ม 3 ลำ
โดยที่ลูกเรือประมงสามารถช่วยเหลือตัวเองออกมาได้ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ขณะที่ชาวประมงระบุว่าปกติช่วงนี้ของทุกปีจะมีคลื่นลมแรงซึ่งชาวประมงจะทราบกันว่าเป็นลมว่าว จึงทยอยนำเรือมาหลบคลื่นลมตามอ่าวต่าง ๆจำนวนมาก และระหว่างที่กำลังจอดเรือเทียบท่าอยู่นั้นได้เกิดคลื่นลมแรงทำให้เรือล่มดังกล่าว
อย่างไรก็ตามสำหรับคลื่นลมแรงในปีนี้นับว่ารุนแรงกว่าปีที่แล้ว โดยที่เรือประมงพื้นบ้าน ซึ่งเป็นเรือขนาดเล็กจมหายไปแล้วเกือบ 10 ลำ นอกจากนั้นยังมีรายงานข่าวแจ้งอีกว่าที่ อ.กาญจนดิษฐ์ บริเวณเกาะปราบมีเรือประมงพื้นบ้านถูกคลื่นซัดเรือจมเช่นกัน ต้องขอความช่วยเหลือเรือตำรวจน้ำเข้าไปช่วยเหลือลูกเรือประมง
ส่วนทางนายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้ย้ำเตือนให้ชาวประมงระมัดระวังเรื่องการเดินเรือ เรือเล็กห้ามออกจากฝั่งเด็ดขาด นอกจากนั้นกำชับผู้ปกครองนักเรียน และชาวบ้านที่อยู่ริมชายทะเล ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลลูกหลานช่วงปิดภาคเรียนห้ามนำเรือล่องตามชายทะเลหรือริมฝั่งเด็ดขาด เพื่อป้องกันเหตุเรือล่ม หลังจากที่เคยเกิดเหตุการณ์เรือหางยาวล่มมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมามีนักเรียนเสียชีวิตถึง 5 ราย สาเหตุเกิดจากการนำเรือไปล่องหาปูและหอยเพื่อฉลองปิดภาคเรียนและประสบคลื่นลมแรงทำให้เรือล่มดังกล่าว
ล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่ามีเรือตกปลาของนักท่องเที่ยว ถูกคลื่นซัดมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและลูกเรือประมงจมหายไปจำนวน 11 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำได้เข้าไปช่วยเหลือแล้ว นอกจากนั้นเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปเกาะพะงันมีผู้โดยสารกว่า 200 คน ปรากฏว่าเมื่อถึงท่าเทียบเรือเกาะพะงันเรือไม่สามารถเทียบท่าได้ คลื่นลมแรงต้องกลับไปเทียบท่าที่เกาะสมุยเช่นเดิมเพื่อความปลอดภัย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
