คมชัดลึก :คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีมติเป็นเอกฉันท์ สั่งอายัดทรัพย์สินของผู้นำลิเบียพร้อมครอบครัวและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาล และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ขณะที่ผู้นำลิเบียได้โยกเงินออกจากสหรัฐฯ ไปอังกฤษแล้ว
(27ก.พ.) คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกถาวรและไม่ถาวรรวม15 ประเทศ เปิดประชุมฉุกเฉินเมื่อคืนนี้ตามเวลาในไทย มีมติเป็นเอกฉันท์ให้อายัดทรัพย์สินของพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย รวมถึงทรัพย์สินของครอบครัวและเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงและหน่วยข่าวกรอง ซึ่งอาจอยู่เบื้องหลังการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรงรวม 16 คน และยังสั่งห้ามคนที่มีรายชื่อทั้งหมด รวมถึงนายกัดดาฟีเดินทางออกนอกประเทศด้วย
นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสหประชาชาติ ป้องกันการซื้อขายและเคลื่อนย้ายอาวุธไปยังลิเบีย และสั่งห้ามลิเบียนำเข้าอาวุธ แต่คณะมนตรีฯ ไม่ได้มีมติเรื่องการส่งกองกำลังนานาชาติเข้าไปยังประเทศลิเบีย รวมทั้งการกำหนดเขตห้ามบินแต่อย่างใด
คณะมนตรีฯ ยังพิจารณาจะส่งเรื่องให้ศาลอาชญากรระหว่างประเทศ ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ สอบสวนการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิตแล้ว
มากกว่าพันราย ว่าจะเข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่และให้ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทันที
แถลงการณ์ของคณะมนตรีฯ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลลิเบียหยุดการกระทำที่รุนแรงใช้ความอดกลั้น เคารพต่อสิทธิมนุษยชน และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
และตอบสนองความต้องการของประชาชนทันที ยกเลิกการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของสื่อทุกประเภท และรับประกันความปลอดภัยของชาวต่างชาติที่กำลังเดินทางออกนอกประเทศ
ด้านเว็บไซท์ ฟ็อกซ์ นิวส์ รายงานว่า ในขณะที่สหรัฐ กำลังเคลื่อนไหวที่จะอายัดทรัพย์ของพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียนั้น ได้มีการเปิดเผยว่า ผู้นำลิเบียแอบเอาเงินสดราว4,800 ล้านดอลล่าร์ หรือราว 144,000 ล้านบาท ไปฝากไว้กับสำนักงานบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลของเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อพยายามปกป้องทรัพย์สินของครอบครัวอย่างเต็มที่
การดำเนินการโอนย้ายทรัพย์สินของพันเอกกัดดาฟี่ ดำเนินการโดยผ่านตัวแทนของเขาในสวิตเซอร์แลนด์ ที่เมื่อสัปดาห์ก่อนก็ได้เข้าไปดูลาดเลาในบริษัทซื้อขายหุ้นของอังกฤษที่มีชื่อเสียง เพื่อพิจารณาเรื่องการลงทุนด้วยเช่นกัน
แต่เมื่อบริษัทซื้อขายหุ้นแห่งนี้ ค้นพบความไม่ชอบมาพากลของแหล่งที่มาของเงินก็ได้แจ้งให้คนกลางที่เป็นตัวแทนของพันเอกกัดดาฟี่ เอาเงินไปลงทุนที่อื่นแทน
โดยซีอีโอของบริษัทที่ไม่เปิดเผยชื่อแห่งนี้ ได้เปิดเผยต่อหนังสือพิมพ์ ลอนดอน ไทม์ส ว่า เขาไม่ถนัดในการทำธุรกิจกับพวกทรราชย์ มือเปื้อนเลือด
พันเอกกัดดาฟี่ ที่ใกล่จะตกจากบัลลังก์ที่ครอบครองมานาน 42 ปีแล้วนั้นได้ใช้ช่วงเวลาที่อยู่ในอำนาจกอบโกยความมั่งคั่งจากน้ำมันเก็บซ่อนไว้เกือบทุกมุมโลก
และปล่อยให้ประเทศยากจน
กระทรวงการคลังของอังกฤษ ได้พยายามติดตามร่องรอยทรัพย์สินของเขาในอังกฤษเพื่ออายัดโดยเชื่อว่า จะรวมถึงเงินหลายพันล้านดอลล่าร์ในธนาคาร และในรูปของอสังหาริมทรัพย์ ที่รวมทั้งคฤหาสน์หรูในลอนดอนด้วย
ยูเอ็นอายัดทรัพย์กัดดาฟี-ครอบครัว
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!