ศาลสั่งประหาร4ตชด.ค้ายาบ้า

ประหาร 4 ตชด. อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ค้ายาบ้า 1.5 แสนเม็ด แบ่งทำงานเป็นทีม ถูกใช้เงินล่อซื้อกว่า 11 ล้าน ข้อต่อสู้ฟังไม่ขึ้น

ที่ห้องพิจารณาคดี 912 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ก.พ. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีดำที่ อย.3949/2550 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 1 เป็นโจทก์ ฟ้อง จ.ส.ต.สุทัศน์ สายปัญญา ผบ.หมู่ กก.ตชด.33 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จ.ส.ต.ตะวัน โกสุโท ผบ.หมู่ กก.ตชด.33 ด.ต.ภูมิพิพัฒน์ ธรรมสุหิรัญ ผบ.หมู่ งาน (ป.) สภ.อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และ ด.ต.วิโรจน์ มูลพร้าว ผบ.หมู่ กก.ตชด.33 เป็นจำเลยที่ 1-4 ตามลำดับในความผิดฐาน เป็นข้าราชการร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า เพื่อจำหน่าย และจำหน่าย พ.ร.บ.อาวุธปืน ปลอม และใช้เอกสารราชการปลอม คดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 21 พ.ย.51 สรุปว่า

เมื่อวันที่ 22 ก.ย.50 พวกจำเลยมียาบ้ารวม 75 มัด จำนวน 150,000 เม็ด และจำหน่ายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อในราคา 11,250,000 บาท โดยจำเลยที่ 1, 3 และ 4 พกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ จำเลยที่ 1 และ 3 ร่วมกันปลอม และใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ใช้ในราชการประจำกองทัพบก เลขหมายทะเบียน 13407 อันเป็นเอกสารราชการของกรมการขนส่ง จำนวน 2 แผ่น แล้วนำไปติดที่รถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า เลขทะเบียน กร.7452 เชียงใหม่ เหตุเกิดที่ ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท และที่อื่นเกี่ยวพันกัน จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า โจทก์มีประจักษ์พยานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เบิกความสอดคล้องกันถึงวิธีการล่อซื้อยาบ้าของกลางจากพวกจำเลย โดยนัดเจอกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เจ้าหน้าที่จึงเช่ารถกระบะนิสสัน ทะเบียน สฎ 3873 กรุงเทพมหานคร ไปจอดรอตามที่นัดหมาย จากนั้น จำเลยที่ 1 ได้ขับรถของสายลับไปยังปั๊มน้ำมันเจ็ท อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จอดขนาบข้างรถโตโยต้า ทะเบียนตรากงจักร ที่จำเลยที่ 2 เป็นผู้ขับ แล้วจำเลยที่ 1 หิ้วกระเป๋าบรรจุยาบ้าจากรถโตโยต้าลำเลียงไปยังรถสายลับ พร้อมทิ้งกุญแจรถของสายลับไว้ที่กระจกมองข้าง หลังจากนั้น จำเลยทั้งหมดได้ขับรถไปรวมตัวที่ร้านอาหารครัวท่าน้ำอ้อย ถนนพหลโยธิน ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม

ศาลเห็นว่า พวกจำเลยได้แบ่งหน้าที่กันทำ โดยจำเลยที่ 1 เป็นคนขับรถนำยาบ้าจาก จ.เชียงใหม่ เดินทางไปกับจำเลยที่ 2 ส่วนจำเลยที่ 3 และ 4 ขับรถกระบะอีซูซุ ทะบียน บม 8826 เชียงราย ตามไปคอยดูแลความปลอดภัยให้ ทั้งจำเลยที่ 1 เป็นคนสั่งให้จำเลยที่ 3 ไปติดต่อเช่ารถโตโยต้า พร้อมกับทำแผ่นป้านทะเบียน ตรากงจักรปลอมขึ้น โดยอ้างว่าไปติดตามจับกุมคนร้ายในคดียาเสพติดนั้น เป็นเพียงข้ออ้างลอย ๆ เพราะหากมาจับกุมคนร้าย จำเลยก็ไม่จำเป็นต้องเช่ารถ และทำทะเบียนปลอม ซึ่งขัดกับหลักการทั่วไปในการจับกุมคนร้าย ทั้งไม่รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

พิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดฐานร่วมกันมียาบ้าไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย และจำหน่าย ลงโทษประหารชีวิต แม้จำเลยทั้ง 4 จะเป็นข้าราชการตำรวจ ต้องระวางโทษ 3 เท่านั้น เมื่อศาลพิพากษาประหารชีวิตอันเป็นโทษสูดสุดแล้ว จึงไม่อาจเพิ่มโทษได้ คงประหารชีวิตจำเลยทั้งสี่สถานเดียว ริบของกลาง


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์