นครบาล งัดมาตรการคุมเข้มอาชญากรรม สั่งกวาดล้าง แท็กซี่เถื่อน ปลอมแปลงป้ายทะเบียน ส่งตร.หัวปิงปองลุยตรวจค้นถึงอู่ทั่วกรุง จับปรับทันควัน เริ่ม15มี.ค.นี้
พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รับผิดชอบงานด้านการจราจร กล่าวถึงมาตรการคุมเข้มช่วยลดปัญหาอาชญากรรมในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจรว่า ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.เป็นต้นไปตำรวจจราจรกลางจะลงพื้นที่ออกตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนรถแท็กซี่ตามอู่จอดแท็กซี่ต่างๆทั่ว กทม.ครอบคลุม 88 สน.ร่วมกับการกวดขันจับกุมของตำรวจจราจรพื้นที่บนท้องถนนจะเริ่มจับปรับรถแท็กซี่ที่ดัดแปลงแก้ไขแผ่นป้ายทะเบียนโดยใช้การขูดลบขีดฆ่า หรือทาสีเพิ่มเติมให้ผิดเพี้ยนไปจากแผ่นป้ายทะเบียนจริง ซึ่งทำให้ตำรวจจับตัวผู้กระทำผิดได้ยาก อีกทั้งเมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้นผู้เสียหายไม่สามารถจดจำเลขทะเบียนของรถที่กระทำความผิดได้ โดยเฉพาะรถแท็กซี่ที่ตรวจพบได้ว่ามีการลักลอบแก้ไขกันมากเป็นรถแท็กซี่ที่ให้เช่าและรถแท็กซี่ส่วนบุคคล
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวต่อว่า หากตรวจพบรถคันใดมีการดัดแปลงแก้ไขแผ่นป้ายทะเบียนให้ผิดเพี้ยนไปจากเดิมในทุกกรณีหรือจงใจกระทำผิด จะต้องถูกจับปรับในอัตราโทษปรับสูงสุด 1,000 บาท เพื่อให้เกิดความหลาบจำ ไม่ให้มีการกระทำผิดครั้งต่อไป ซึ่งการดำเนินมาตรการครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากที่ผ่านมามีการตรวจสอบการใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์สาธารณะ รถส่วนบุคคล คันที่มีการนำไปใช้ก่ออาชญากรรม พบว่า หลายคันมีการดัดแปลงป้ายทะเบียน โดยใช้การขูดลบขีดฆ่า หรือทาสีเพิ่มเติมให้ผิดเพี้ยนไปจากแผ่นป้ายทะเบียนจริง ซึ่งทำให้ตำรวจจับตัวผู้กระทำผิดได้ยาก อีกทั้งผู้เสียหายไม่สามารถจดจำเลขทะเบียนของรถที่กระทำความผิดได้ โดยเฉพาะรถแท็กซี่ที่ตรวจพบได้ว่ามีการลักลอบแก้ไขกันมาก โดยมีการตรวจสอบจากระบบกล้องจับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ที่มีการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน
" ผมได้สั่งการไปยังตำรวจจราจรทุกท้องที่และตำรวจจราจรกลางให้เข้มงวดกวดขันจับกุมในเรื่องของการแก้ไขดัดแปลงแผ่นป้ายทะเบียน หรือที่ไม่ยอมติดป้ายทะเบียนโดยเฉพาะด้านหลัง ทั้งรถสาธารณะและรถส่วนบุคคลอย่างจริงจัง รวมถึงรถจักรยานยนต์ที่กระทำความผิดลักษณะเดียวกันด้วย ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของการประชาสัมพันธ์ก่อน จากนั้นในวันที่ 15 มีนาคมเป็นต้นไปจะดำเนินการจับปรับในอัตราขั้นสูงสุดอย่างจริงจังโดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องไม่มีข้อยกเว้นใดๆอย่างเด็ดขาด " รอง ผบช.น.กล่าวในที่สุด