อยุธยาอัมพาต! ม็อบชาวนาปิดถนนทั่วเมือง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ เครือข่าวชาวนาภาคกลาง 22 จังหวัด โดยเฉพาะชาวนาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.สุพรรณบุรี กว่า 1 พันคน นำโดย นายสมชัย ไตรถาวร แกนนำชาวนา จ.พระนครศรีอยุธยา และนายเสมียน หงส์โต แกนนำชาวนา จ.สุพรรณบุรี พร้อมรถบรรทุกทางการเกษตรจำนวนกว่า 30 คันและรถกระบะจำนวนมาก รวมถึงรถสองแถวที่รับส่งชาวนา ปิดขนาด 4 ช่องทางจราจรของถนนศูนย์ราชการ ข้างศาลากลาง จ.พระนครศรีอยุธยา ติดถนนสายเอเชีย ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เรียกร้องขอพบนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา

เพื่อยื่นข้อเรียกร้องจำนวน 4 ข้อ 

1.ขอให้เพิ่มวงเงินประกันราคาข้าวจาก 10,000 บาท/ตัน เป็น 14,000 บาท/ตัน เพิ่มโควต้าจาก 25 ตัน/ครัวเรือน เป็น 40 ตัน/ครัวเรือน 

2.ให้รัฐบาลประชาสัมพันธ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ ทั้งการเพาะปลูก การตลาด การส่งออก เพื่อทันต่อสถานการณ์ 

3.ตั้งตัวแทนเกษตรกรเข้าไปเป็นกรรมการมีส่วนร่วมในการประชุมเกี่ยวกับนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมการผลิตและการตลาด 

4.ให้รัฐบาลเร่งรัดแก้ไขปัญหาภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการจะรวมพลบุกเข้าถึงทำเนียบรัฐบาลเพื่อประท้วงอย่างหนักหน่วง 

อย่างไรก็ตาม มีการนำกำลังอาสาสมัครและตำรวจ มาปิดล้อมศูนย์ราชการและศาลากลางไว้ ห้ามผู้ชุมนุมเข้าโดยเด็ดขาด โดยผู้ชุมนุมเปิดเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลและขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ไม่พบว่ามีหัวหน้าส่วนราชการหรือข้าราชการระดับสูงลงมารับหนังสือร้องเรียน ทำให้กลุ่มชาวนาไม่พอใจเคลื่อนพลไปติดรั้วศาลากลางและพยามยามจะปีนรั้วเพื่อบุกเข้าไปในศาลากลาง แต่เจ้าหน้าที่มีการตรึงกำลังมาเสริม

เวลา 11.30 น. ผู้ชุมนุมได้ขับรถบรรทุกออกไปปิดถนนสายเอเชียที่อยู่ห่างไปประมาณ 500 เมตร โดยมีการปิดถนนสายเอเชีย ช่วง กม.ที่ 18 หน้าศาลากลางจังหวัด โดยปิดทั้งช่องทางคู่ขนาน ช่องทางด่วน ทั้งขาขึ้นเหนือ และช่องทางขาเข้ากรุงเทพฯ รวมกว่า 10 ช่องทางจราจร โดยปิดถนนแบบปิดตาย ห้ามรถสัญจรโดยเด็ดขาด พร้อมเปิดเวทีปราศรัยโจมตีกลางถนนทำให้รถติดยาวหลายกิโลเมตร

เวลา 12.00 น. ผู้ชุมนุมได้เคลื่อนพลไปปิดถนนสายเอเชียตรงแยกเลี่ยงเมืองอยุธยาในเขต ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน เพิ่มเติม โดยปิดถนนสายเอเชียและถนนเลี่ยงเมือง รวมทั้งยังมีกำลังเสริมไปปิดถนนสาย 347 เส้นทางปทุมฯ-บางปะหัน อีก  

นอกจากนั้น ได้ดาวกระจายปิดถนนทั่วเมืองพระนครศรีอยุธยา ทำให้เกิดความปั่นป่วนไปทั่ว เพราะถนนสายที่ถูกปิดเป็นถนนสายสำคัญในการสัญจรของการเดินทางจากกรุงเทพฯไปภาคกลางและภาคเหนือ โดยตัวแทนตำรวจจาก ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พยายามเข้าไปเจรจาเพื่อขอให้ยุติการปิดถนน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ