เว็บไซท์ เดอะ การ์เดี้ยน รายงานว่า เหตุการณ์ประท้วงในลิเบีย ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบเบรนต์ เพิ่มขึ้นเป็น 105.28 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง
ส่วนเหตุการณ์ประท้วงก่อนหน้านี้ ทั้งที่ตูนิเซียและอิยิปต์ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน เนื่องจากทั้งสองประเทศไม่ใช่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ แต่ลิเบียเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ เป็นอันดับ 3 ของทวีปแอฟริกา รองจากไนจีเรียและอังโกล่า โดยผลิตน้ำมันได้มากถึงวันละ 1.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งนักวิเคราะห์ ได้แสดงความวิตกว่า เหตุประท้วงอาจลุกลามไปยังซาอุดิอาระเบีย ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก และถ้าเป็นเช่นนั้น ราคาน้ำมันโลกอาจพุ่งสูงกว่าที่เป็นอยู่
เหตุการณ์ประท้วงเดือดถึงขั้นนองเลือดในลิเบีย ทำให้บริษัทน้ำมันข้ามชาติแห่งหนึ่ง ที่ผลิตน้ำมันวันละ 1 แสนบาร์เรล หรือราว 6 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณน้ำมันทมี่ผลิตได้ในประเทศ ปิดดำเนินการ ส่วนบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ รวมทั้ง เชลล์ ได้อพยพพนักงานออกจากลิเบีย หลังจากพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี่ ผู้นำลิเบียพยายามยื้ออำนาจ ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน
ความไม่สงบในลิเบีย ได้ก่อให้เกิดความวิตกว่า การส่งออกน้ำมันอาจถูกรบกวน โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบียผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ที่มีศักยภาพในการผลิตกว่า 1 ใน 4 ของปริมาณน้ำมันดิบของทั้งโลกและยังได้ชื่อว่า เป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียว ที่สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่ต้องมีการผลิตน้ำมันชดเชยในกรณีที่เกิดวิกฤติขาดแคลนน้ำมัน