นางอรอนงค์ วัชรเศรษฐกุล รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ว่า ตามแนวชายแดนด่านศุลกากรมุกดาหารมีลักลอบสินค้าหนีภาษีหลายประเภท
โดยเฉพาะซากสุกรชำแหละจากประเทศเวียดนาม (หมูกี้) ซึ่งเป็นสุกรสายพันธุ์แคระ โดยพ่อค้าชาวไทยนิยมนำมาทำหมูหันเพื่อขายให้กับผู้บริโภค เนื่องจากพันธุ์ดังกล่าวเป็นสุกรขนาดเล็กอายุเพียง 2 ปี สามารถนำมาทำหมูหันได้ดีและนิยมเลี้ยงในประเทศเวียดนาม
นางอรอนงค์กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไม่อนุญาตให้นำเข้าหมูกี้
เพราะได้ตรวจพบว่า สุกรชำแหละสดดังกล่าวมีโรคติดต่อถึง 6 ชนิด เช่น โรคปากเท้าเปื่อย อาจแพร่เข้ามายังไทยได้ โดยผู้ลักลอบนำเข้ามาขายในประเทศมีต้นทุนประมาณ 300-400 บาทต่อตัว แต่ร้านอาหารจำหน่ายหมูหันให้กับผู้บริโภคประมาณตัวละ 800-1,000 บาท เนื่องจากลูกสุกรในแถบจังหวัดนครปฐม หากทำหมูหันเนื้อและหนังจะเปื่อยยุ่ยไม่น่ารับประทาน หมูกี้จึงเป็นที่ได้รับความนิยมของร้านอาหาร
สำหรับผลการจับกุมสินค้าลักลอบหนีภาษี นางอรอนงค์กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2553-12 กุมภาพันธ์ 2554 สามารถจับกุมและตรวจยึดสินค้าหนีภาษี
สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าเกษตรต้องห้าม และยาเสพติด ได้ทั้งสิ้น 96 คดี มูลค่าของกลาง 14.86 ล้านบาท เช่น กระเทียม หอมหัวใหญ่ มะขามเปียก ยาบ้า กระเป๋า แผ่นซีดี โทรศัพท์ เครื่องสำอาง เครื่องแต่งกาย สินค้าตามอนุสัญญา CITES (สัตว์ป่าและพันธุ์พืช) เช่น ซากหัวและเขากวาง สินค้าทั่วไป เช่น ไม้พะยูง ถังแก๊สแอลพีจี ซึ่งเป็นการแอบลักลอบจากไทยไปขายในประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่ขออนุญาตกระทรวงพลังงาน และลักลอบนำธนบัตรไทยออกประเทศโดยไม่ขออนุญาตได้ถึง 9.1 ล้านบาท กรมศุลกากรจึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวจากกรมศุลกากรแจ้งว่า สำหรับสถิติการจับกุมการลักลอบนำเข้าหมูกี้จากเวียดนามพบว่า ในปีงบประมาณ 2554 จับได้ทั้งสิ้น 295 ตัว
คิดเป็นมูลค่าประมาณ 118,000 บาท โดยวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจับกุมได้มากที่สุดถึง 200 ตัว มูลค่ากว่า 80,000 บาท และในปีงบประมาณ 2553 ทั้งปี จับกุมได้ทั้งสิ้น 2,200 ตัว คิดเป็นมูลค่าเกือบ 200,000 บาท