ลือหึ่ง เฟซบุค-กูเกิ้ล ดอดเจรจาเทคโอเวอร์กิจการ ทวิตเตอร์

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า "กูเกิ้ล" และ"เฟซบุค" และผู้ประกอบการในธุรกิจสังคมออนไลน์รายอื่นๆ ได้ทำการเจรจาในเบื้องต้น ต่อการ"เทคโอเวอร์" กิจการของ"ทวิตเตอร์" ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3 แสนล้านบาท)

เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ได้รับอัดฉีดเงินเข้าในระบบการเงินของตนเพิ่มเติมอีกจำนวน 200 ล้านเหรียญ ในข้อตกลงซึ่งทำการประเมินมูลค่าของทวิตเตอร์ที่ 3.7 พันล้านเหรียญ ขณะที่ผู้ใช้บริการบล็อกสั้นหรือ micro-blogging ของทวิตเตอร์มีจำนวนประมาณ 175 ล้านคน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

เว็บไซด์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ผู้บริหารของทวิตเตอร์ได้มีการพูดคุยในเบื้องต้นต่อผู้บริหารจากเฟซบุคและทวิตเตอร์เมื่อไม่นานามานี้ ถึงความเป็นไปได้ในการเทคโอเวอร์กิจการทวิตเตอร์

โดยวอลล์สตรีท เจอร์นัล กล่าวว่า แหล่งข่าวที่มีความใกล้ชิดกับประเด็นดังกล่าว ระบุว่ายังมีบริษัทอื่นๆที่เข้าร่วมในการเจรจาเช่นกัน

"แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ จำนวนเงินที่ใช้เป็นตัวกำหนดกรอบของการเจรจา ของบางบริษัทที่มีความเป็นไปได้ ซึ่งประเมินมูลค่าของทวิตเตอร์ไว้ที่ 8,000-10,000 ล้านเหรียญ" อย่างไรก็ดีรายงานยังระบุว่า นับจากการพูดคุยครั้งนั้นก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อีก ขณะที่กูเกิ้ล, เฟซบุค และทวิตเตอร์ต่างปิดปากเงียบ

แม้ว่าจะได้รับการประเมินค่ามหาศาล รายงานกล่าวว่า ผู้บริหารและคณะกรรมการของทวิตเตอร์ยังคงเสาะหาวิธีที่จะทำให้บริษัทมีความยิ่งใหญ่ และมีความเป็นอิสระ

"ผู้ที่มีความคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนี้กล่าวว่า ทวิตเตอร์เชื่อว่าตนเองสามารถเติบโตเป็นบริษัทที่มีมูลค่า 1 แสนล้านเหรียญได้ไม่ยาก" เว็บไซด์ระบุ

ทวิตเตอร์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 ท่ามกลางการเติบโตของธุรกิจเว็บไซด์สังคมออนไลน์ อาทิ เฟซบุค, ซิงก้า (Zynga) และลิงค์อิน (LinkedIn)

ขณะที่บริษัทที่ทำการสำรวจด้านธุรกิจเว็บไซด์สังคมออนไลน์อย่าง eMarketer กล่าวเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า ทวิตเตอร์ ซึ่งไม่เคยเปิดเผยข้อมูลด้านการเงินมาก่อน สามารถทำรายได้ราว 45 ล้านเหรียญ จากการโฆษณาในปี 2010 และคาดว่าอาจสูงถึง 150 ล้านเหรียญในปีนี้

ขณะที่กูเกิ้ล ซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจเซิร์ช เอ็นจิ้น สามารถทำรายได้ราว 2.9 หมื่นล้านเหรียญ ในปี 2010 และเฟซบุค ซึ่งได้รับการประเมินมูลค่าบริษัทที่ 5 หมื่นล้านเหรียญ สามารถทำรายได้จากการโฆษณาได้ราว 1.9 พันล้านเหรียญ