เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า
กระทรวงพาณิชย์จะไม่ต่อมาตรการขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภค แต่จะใช้มาตรการกำกับดูแลโครงสร้างต้นทุนสินค้าและเข้มงวดการใช้กฎหมายที่มีอยู่ โดยผลการศึกษาเบื้องต้นของกรมการค้าภายใน (คน.) พบว่ามีไม่เกิน 5-10% ของรายการสินค้าที่กระทรวงพาณิชย์ดูแล 204 รายการ ที่ต้องปรับราคาตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ผู้ผลิตสินค้าทยอยจัดส่งราคาขายใหม่ที่ได้ปรับขึ้นมาแล้ว ส่วนใหญ่ยังไม่เกินเพดานที่กำหนดไว้
แหล่งข่าวจากผู้ผลิตและจำหน่ายนมพร้อมดื่ม กล่าวว่า กลุ่มผู้ผลิตนมพร้อมดื่มทั้งพาสเจอไรซ์และยูเอสที
ได้ยื่นหนังสือต่อ คน.ขอปรับราคานมบรรจุกล่องทุกขนาด 25-50 สตางค์ เนื่องจากรัฐบาลเตรียมอนุมัติให้เพิ่มราคาน้ำนมดิบรับซื้อจากเกษตรกรอีก 50 สตางค์ จาก 17 บาทเป็น 17.50 บาท และมีต้นทุนเพิ่มจากค่าแรงงานและภาชนะใช้บรรจุ ซึ่งตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมากลุ่มนมผงและนมข้นในท้องตลาดได้มีการขยับราคาขายปลีกแล้ว 10-15%
แหล่งข่าวจากผู้ผลิตปุ๋ยเคมีกล่าวว่า กลางเดือนกุมภาพันธ์นี้กระทรวงพาณิชย์นัดประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำปุ๋ย เพื่อพิจารณาการปรับขึ้นราคาปุ๋ยเคมี ตามที่ผู้ประกอบการยื่นหนังสือขอปรับราคา โดยมีแนวโน้มสูงที่จะได้อนุมัติให้ปรับราคาได้ไม่เกิน 20%