รัฐบาลตีปี๊บชวนปลูกยางกก.ละ200บ.

ราคายางจ่อพุ่งพรวดพราดขึ้นเป็นกิโลฯ ละ 200 บาท จากเดิม 181 บาท ชาวสวนเตรียมเฮล่วงหน้า เหตุมาจากผลผลิตออกมาค่อนข้างน้อย-เข้าสู่ช่วงฤดูผลัดใบ "บอร์ด กนย." ไฟเขียวเพิ่มราคากล้ายางเป็นต้นละ 25 บาท สอดคล้องกับ “มาร์ค” ตีปี๊บโครงการส่งเสริมปลูกยางพารา คุยโอ่ทั่วประเทศ 8 แสนไร่ ทุ่มอีสานภาคเดียว 5 แสนไร่ คอนเฟอเรนซ์ผู้ว่าฯ เร่งทำความเข้าใจเกษตรกร ขณะที่ปัญหาข้าวของราคาแพง “วัชระ” ขอบคุณ “เจ๊วา” ได้ยินเสียงปี๊บประชาชนเดือดร้อน แนะต้องแก้ปัญหา ไม่ใช่ฉุยฉายเดินห้างอย่างเดียว รับเจอ “บัญญัติ” เตือน แต่ไม่หยุดตรวจสอบ พลิกบทส่งข้อมูลถึงรมว.พาณิชย์โดยตรง
    
ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 08.15 น. วันที่ 4 ก.พ.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมติดตามการปฏิบัติงานของส่วนราชการ ผ่านการสื่อสารทางไกลด้วยระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ กับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนส่วนราชการ และประชาชนใน จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ  ร้อยเอ็ด หนองคาย และสุรินทร์ โดยมีนายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน นายจิรากร โกศัยเสวี อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายชูชาติ ตันอังสนากุล ผู้อำนวยการองค์การสวนยาง และนางอัญชลี วาณิช เทพบุตร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า โครงการส่งเสริมการปลูกยางพาราในพื้นที่ใหม่ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2554-2556) จำนวน 8 แสนไร่ มีเป้าหมายปลูกยางในภาคเหนือ 1.5 แสนไร่ ภาคกลางและตะวันออก 1 แสนไร่ ภาคใต้ 5 หมื่นไร่ และในภาคอีสาน 5 แสนไร่ ขณะนี้มีความนิยมปลูกเพิ่มมากขึ้น
    
รัฐบาลให้การสนับสนุนในเรื่องปัจจัยการผลิต การบริหารจัดการ การถ่ายทอดเทคโนโลยี ที่สำคัญคนที่จะเข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสม ต้องมีที่ดินเป็นของตัวเอง มีเอกสารสิทธิ เนื่องจากสิ่งที่เป็นห่วงคือจะมีพี่น้องประชาชนอาจคิดไปรุกที่ เพราะอยากประกอบอาชีพนี้ การบุกรุกที่ไม่ใช่นโยบายรัฐบาล เพราะรัฐบาลต้องการอนุรักษ์พื้นที่ป่าเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตามต้องขอให้กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ไปทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องโครงการนี้ว่ามีความสำคัญ ทำให้ถูกต้องโปร่งใสทุกประการโดยเฉพาะคุณสมบัติ เพราะในวันที่ 15 ก.พ.นี้ กำลังจะมีการรับลงทะเบียน ดังนั้นต้องเร่งทำความเข้าใจให้เกษตรกรได้รับทราบโดยทั่วกัน” 
       
ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ว่า ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์และแนวโน้มราคายางพารา โดยราคายางแผ่นดิบชั้น 3 อยู่ที่กก.ละ 168 บาท ขณะที่ราคา เอฟ.โอ.บี (รวมค่าขนส่ง) ยางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 อยู่ที่กก.ละ 181 บาท คาดว่าภายในปีนี้ราคายางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 จะเพิ่มเป็นกก.ละ 200 บาทแน่นอน เนื่องจากผลผลิตที่ออกมาค่อนข้างน้อย และเข้าสู่ช่วงฤดูผลัดใบ ขณะที่ตามสัญญาซื้อขายยางล่วงหน้ามีความต้องการมากถึง 700,000 ตัน  แต่ปริมาณผลผลิตยางมีเพียงประมาณ 300,000 ตันเท่านั้น  
      
อย่างไรก็ตามขอเตือนชาวสวนยางอย่าเร่งกรีดยาง โดยเฉพาะยางที่มีอายุและขนาดไม่เหมาะสม เช่น อายุไม่ถึง 6-7 ปี สูงไม่เกิน 1.5 เมตรและเส้นรอบวงไม่เกิน 50 เซนติเมตร หากกรีดยางไปแล้วจะทำให้ต้นยางแคระ และมีอายุสั้น ระยะเวลาการกรีดยางสั้นกว่าปกติ นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติให้ปรับขึ้นราคาประมูลกล้ายาง ตามโครงการขยายพื้นที่ปลูกยางพาราระยะที่  3 จำนวน 800,000 ไร่ เป็นต้นละ 25 บาท จากเดิมที่กำหนดไว้ต้นละ 18 บาท เนื่องจากขณะนี้ราคากล้ายางในตลาดได้ปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ต้นละ 45-50 บาทแล้ว หากยังคงตั้งราคาประมูลกล้ายางไว้ที่ 18 บาทเท่าเดิม อาจทำให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไปไม่ได้เพราะไม่มีผู้มาเข้าร่วมประมูล โดยจะเสนอให้ครม.พิจารณาในเร็ว ๆ นี้  
    
ขณะที่ปัญหาราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ แก้ปัญหาของแพง จนทำให้นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ไม่พอใจว่า ตนทำตามหน้าที่ส.ส. ไม่ได้มีเรื่องส่วนตัวอะไรกับใคร ต้องขอขอบคุณนางพรทิวา ที่ได้ยินเสียงปี๊บของประชาชนที่ได้ร้องเรียนว่าประสบปัญหาของแพงจริง ๆ ยืนยันว่าไม่ได้อุปโลกน์ตัวเลขน้ำมันปาล์มแพง และมะขามเปียกราคาสูง กระทรวงพาณิชย์จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ทั้งนี้ตนขอโทษนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เลขาฯ พรรคฯ ที่ต้องออกมาขอโทษแทนตน แต่เมื่อตนเป็น ส.ส.จะปิดปากไม่ให้พูดคงไม่ได้
       
ผมยอมรับว่านางพรทิวาสวยที่สุดใน ครม. แต่ต้องแก้ปัญหาให้ประชาชนด้วย จะมัวแต่เดินชอปปิงฉุยฉายในห้างสรรพสินค้าไม่ได้ เพราะประชาชนสัมผัสความจริงในท้องตลาด รมว.พาณิชย์ ไม่ควรโกรธเคืองผม เพราะผมไม่ได้ต้องการตีกันพรรคร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด และหลังจากที่ผมแถลงข่าว ได้มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ติติงมาว่า การที่ผมตีปี๊บในสภาไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ แต่ก็คงไม่ทำให้ผมหยุดการตรวจสอบ โดยต่อไปหากมีข้อมูลก็จะส่งถึงนางพรทิวาโดยตรง”



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์