ถูกกระสุนปืนใหญ่จากฝั่งกัมพูชา ตกใส่จนไฟลุกท่วมทั้งหลัง
ต้องอพยพหนีตายไปซ่อนในหลุมหลบภัย เมื่อ 4 ก.พ.
ไทย-เขมรยิงนัว รบจนได้ ชาวบ้านดับ-รับกรรม
ไทย-เขมรรบกันจนได้ เปิดฉากยิงปืนใหญ่ ถล่มดุเดือดบริเวณเขาพระวิหาร ต่างฝ่าย ต่างซัดอีกฝ่ายยิงก่อน ขณะที่ "กษิต" อยู่ระหว่างเยือนพนมเปญ "บิ๊กป้อม" ต่อสายตรงถึงฮุนเซนจนยอมหยุดยิง หลายหมู่บ้านในอ.กันทรลักษ์ถูกปืนใหญ่ถล่มเสียหายหนัก ชาวบ้านหอบลูกจูงหลานอพยพหนีภัยสงคราม เบื้องต้นมีชาวบ้านตาย 1 ทหารเจ็บ 5 และถูกเขมรจับอีก 5 "จำลอง"โต้วุ่นไม่ใช่ชนวนเหตุ
"มาร์ค"ประสานเคลียร์พธม.
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 4 ก.พ.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการหาทางพูดคุยกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก่อนจะยกระดับการชุมนุมวันที่ 5 ก.พ.นี้ ว่า ประสานงานกันอยู่ ซึ่งมีความคืบหน้า แต่ต้องยอมรับว่าเวลาที่มีการเคลื่อนไหวอย่างนี้จะมีคนที่เกี่ยวข้องพอสมควร อาจไม่ได้ประสานได้ทุกคน แต่ว่าบางส่วนได้ประสานงานกันอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ขอไม่พูดในรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการปราศรัยของพันธมิตรโจมตีนายกฯและรัฐบาลด้วยถ้อยคำรุนแรง นายอภิสิทธิ์ ยิ้มแล้วกล่าวว่า เป็นธรรมดาของการชุมนุม และมีบางเรื่องที่เข้าใจผิดเช่นการให้เบอร์โทรศัพท์ตน ซึ่งถ้าตนว่างก็รับสายด้วยตัวเอง เห็นได้ชัดว่าบางคนที่โทร.เข้ามาได้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน แต่พอคุยแล้วก็เข้าใจ
ไม่พอใจให้เบอร์โทร.บนเวที
"การบอกเบอร์โทรศัพท์เป็นการละเมิดสิทธิอยู่แล้วละครับ ซึ่งตัวคนทำเราก็รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้ แต่ผมว่าหลายคนที่เป็นผู้ที่อยู่ขบวนการเคลื่อนไหวเขายังมีเหตุมีผล มีอยู่ไม่กี่รายที่เราทราบตั้งแต่ต้น ว่ามีเรื่องอื่นอยู่ในใจ เป็นธรรมดา" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าพันธมิตรระบุว่ารัฐบาลชุดนี้เลวร้ายกว่ารัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นของเขา แต่ยืนยันว่าไม่เหมือนกัน เมื่อถามถึงกรณีพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร ยืนยันไม่เปิดการจราจรถนนพิษณุโลก และระบุด้วยว่าจะเข้ามาในทำเนียบรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าเรื่องการบุกรุกเข้าทำเนียบเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ ไม่ถูกต้องแน่นอน ส่วนการปิดการจราจรนั้นตำรวจยังพยายามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนได้พบกับพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. และผบช.น. ก็ย้ำไปอีกครั้ง ซึ่งพยายามเข้าไปแก้ไขปัญหา แต่กังวลเรื่องการกระทบกระทั่งกัน เพราะมีบางฝ่ายปลุกระดมทำนองว่ารัฐบาลต้องการใช้ความรุนแรง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้น
เมื่อถามว่าอะไรคือปัจจัยที่จะทำให้รัฐบาลและผู้ชุมนุมเชื่อมต่อกันได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าถ้าประเด็นของข้อเรียกร้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกัมพูชาเป็นเรื่องของปัญหาของข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ฉะนั้นความจริงถ้ามีความตั้งใจจะแก้ปัญหาเพื่อประโยชน์ของประเทศก็ต้องเอาข้อมูลมาแบ่งปัน และแลกเปลี่ยนกันมากกว่าการที่จะมามุ่งเรื่องของการโจมตีหรือทำลายกัน ซึ่งไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาสำหรับคนไทย 2 คน หรือสำหรับการดูแลปัญหาชายแดนทั้งหมด
เล็งใช้พ.ร.บ.มั่นคงรับม็อบ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ ขณะนี้นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เดินทางไปกัมพูชาเพื่อประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา(เจซี) ครั้งที่ 7 เชื่อว่าพูดกันรู้เรื่อง เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะฟังกันไม่เข้าใจ เว้นแต่เป็นบางเรื่องที่ต้องใช้เวลา หรือข้อมูลอื่นๆ มาประกอบก็อาจมีชุดทำงานพิเศษได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข่าวว่าส่งเลขาธิการสภา ความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปกัมพูชา นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ได้ส่งไป แต่เป็นหน้าที่ของเลขาธิการสมช.อยู่แล้วที่ต้องร่วมคณะไปพูดคุยกัน ส่วนจะพูดคุยเรื่องอะไรนั้น ให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ชี้แจงดีกว่า
เมื่อถามว่ามีรายงานทางการข่าวหรือไม่ว่าสุดสัปดาห์นี้การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรจะมีเหตุรุนแรงหรือไม่ ซึ่งผบ.ตร.ระบุหากจำเป็นจะขอให้รัฐบาลใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้หารือกับผบ.ตร.ว่ามาตรการดูแลให้การชุมนุมเรียบร้อย ป้องกันไม่ให้ขยายวงออกไปจนส่งผลกระทบต่อคนกทม. ต้องทำโดยรัดกุม กำหนดขั้นตอนไว้ชัดเจนว่าขั้นไหนจะทำอย่างไร ซึ่งขณะนี้กำลังปรึกษาหารือกันอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจ ป้องกันไม่ให้สถานที่ราชการถูกบุกรุก
เมื่อถามย้ำว่ากลัวหรือไม่ว่ากลุ่มพันธมิตรซึ่งมีจำนวนน้อย แต่จะอาศัยมือที่สามมาสร้างสถานการณ์ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่ากลัว อย่าไปวิตกกังวล เรามีหน้าที่ต้องแก้ปัญหาและไม่ประมาท อะไรพูดจากันได้ก็จะพูดจากัน
ตอนเช้าพธม.โหรงเหรง
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และถนนราชดำเนินนอก ว่า บรรยากาศช่วงเช้า กลุ่มผู้ชุมนุมบางตาไม่กี่สิบคนฟังการปราศรัยและเล่าข่าวจากโฆษกบนเวที เนื้อหาการปราศรัยส่วนใหญ่ยังมุ่งไปที่การเสียดินแดนไทยให้กับกัมพูชา รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์การช่วยเหลือคนไทยที่ไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล ขณะที่การรักษาความปลอดภัย ตำรวจปราบจลาจลหลายร้อยนายยังรักษาการณ์อย่างแข็งขันทั้งในและนอกทำเนียบรัฐบาล
เวลา 10.00 น. ที่หน้ากระทรวงศึกษา ธิการ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตร นายประพันธ์ คูณมี แกนนำพันธมิตร และนายวีรพันธุ์ มาไลยพันธุ์ อดีตคณบดีคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกันแถลงข่าว นายปานเทพกล่าวว่า กรณีแม่ทัพภาคที่ 2 มีแนวคิดแบ่งพื้นที่พิพาทไทย-กัมพูชาอย่างละครึ่ง รวมทั้งมีแผนสร้างสถูปคู่ และนำภาพนูนต่ำ สระตราว ขึ้นทะเบียนพร้อมกับปราสาทเขาพระวิหาร เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งนั้น ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลย เสมือนกับแก้ผ้าเอาหน้ารอด เพราะต้องเข้าใจว่ากัมพูชาได้ขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 2551 โดยกัมพูชาถือทะเบียนมรดกโลกนี้อยู่ หากนำสระตราว ภาพแกะสลักนูนต่ำ ที่ถือว่าอยู่ในเขตแดนไทย เป็นของไทยแท้ๆ รวมไปด้วย ก็จะทำให้เราเสียดินแดนเพิ่มมากขึ้น และหากรัฐบาลดำเนินการเช่นนี้จริง จะถือว่ามีความผิดทางอาญา มาตรา 119 และ120 กรณีเสียอธิปไตย มีโทษถึงประหารชีวิต
แฉ"กษิต"ไปขออภัยโทษ
นายวีรพันธุ์ กล่าวเสริมว่า การถอนตัวออกจากคณะกรรมการมรดกโลก มีแต่เราได้ประโยชน์ เพราะจากการพูดคุยกับนักวิชาการหลายคนที่วิเคราะห์ถึงข้อดีข้อเสีย มีมติเห็นร่วมกันว่า การถอนตัวมีแต่ได้ประโยชน์ เพราะสามารถมีอิสระ สามารถเรียกร้องดินแดนคืนได้ จึงอยากฝากถึงนายกฯว่าได้ยินและชั่งน้ำหนักตามข้อเสนอของนักวิชาการ จะเป็นเรื่องเหลวไหลตามความคิดของนายกฯหรือไม่
นายประพันธ์ กล่าวว่า กรณีนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไปเจรจาที่กัมพูชา จุดประสงค์สำคัญคือ ขออภัยโทษให้กับ 2 คนไทย การดำเนินการเช่นนี้คล้ายกับทำตัวก้มหัวให้กับฮุนเซน และทราบมาว่านายวีระ สมความคิด ยืนยันแล้วว่า ไม่ขออภัยโทษ การดำเนินการเช่นนี้ถือว่ารัฐบาลและนายกฯดื้อด้าน ซึ่งมีแต่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย และนอกจากพันธมิตร จะยกระดับการชุมนุมแล้ว ต่อจากนี้กลุ่มพันธมิตรก็จะขุดคุ้ยเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะเรื่องข้าวและน้ำมันปาล์ม ที่เห็นหน้าเหมือนสะอาด ตรงกันข้ามกลับหาเงินช่วยพวกพ้อง เพื่อหาทุนเลือกตั้ง
"จำลอง"เข้าทำเนียบได้ทุกนาที
ขณะที่พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร กล่าวว่า จะปักหลักชุมนุมค้างคืนจนกว่านายกฯจะทำตามข้อเสนอทั้ง 3 ข้อ แม้ตำรวจจะสลายเราก็จะกลับมาอีก ถ้าตำรวจจะใช้แก๊สน้ำตาเราก็ใช้วิธีหลบเลี่ยงเอา เพราะไม่มีอาวุธไปต่อต้าน ยืนยันว่าจะไม่ออกจากพื้นที่ชุมนุมนี้ จนกว่านายกฯจะออกมาทำหน้าที่ ส่วนวันเสาร์ที่ 5 ก.พ.ต้องการขอฉันทามติจากผู้ชุมนุมจะมีคนมากหรือน้อยไม่เป็นไร เพราะจำนวนคนเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ยืนยันว่าการขอฉันทามติ ไม่ใช่พาคนไปเผาบ้านเผาเมือง หรือพาไปยิงใคร ส่วนกระแสข่าวว่าจะบุกเข้าไปในทำเนียบ ถ้าคิดจะเข้าก็สามารถเข้าไปได้ทุกนาที ที่ผ่านมาสำเร็จทุกครั้ง แต่การตัดสินใจทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับการประชุมของแกนนำ
ต่อมาเวลา 11.30 น. ที่เต็นท์เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ พร้อมด้วยนายการุณ ใสงาม แกนนำเครือข่ายฯ ร่วมกันแถลงข่าว นายการุณ กล่าวว่า กรณีที่ตนถูกสกัดจับที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยอ้างว่ามีหมายจับนั้น ที่ผ่านมาตนทั้งโทร.ไปหากองปราบปราม รวมทั้งประสาน ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่เห็นมาจับตน ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมาสกัดจับช่วงนี้ที่กำลังช่วยเหลือคนไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุม วันที่ 11 ก.พ. จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกัมพูชา ส่วนการขออภัยโทษที่ทางรัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่นั้น นายวีระยืนยันไม่ขอรับการอภัยโทษ
ทหารปะทะยิงปืนใหญ่ถล่ม
เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ที่บริเวณ ภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เกิดการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา โดยระดมยิงปืนใหญ่และอาวุธหนักเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่อง เสียงกระสุนปืนได้ยินเข้ามาถึงบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อย่างชัดเจน จากการปะทะอย่างต่อเนื่องดังกล่าวทำให้เกิดเพลิงไหม้ป่าตลอดแนวเขาพระวิหาร มีกลุ่มควันจากเพลิงไหม้พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
ขณะเดียวกันที่หมู่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย บรรดาครู นักเรียน และชาวบ้านต่างพากันวิ่งหนีเข้าหลุมหลบภัยกันจ้าละหวั่น เนื่องจากมีกระสุนปืนใหญ่จากกัมพูชาเข้ามาตกห่างจากหมู่บ้านภูมิซรอลประมาณ 1 ก.ม. ครูจึงให้นักเรียนกลับบ้าน แล้วอพยพกันไปหลบอยู่ในหลุมหลบภัยที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ โดยกระสุนปืนใหญ่ที่ฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามามีจำนวนนับร้อยนัด
"ไก่อู"ระบุเขมรจับ 5 ทหารไทย
ต่อมาพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานว่าเกิดเหตุปะทะขึ้นจริงที่ชายแดนไทย-เขมร บริเวณภูมะเขือ ต.เขาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อเวลา 15.15 น. โดยฝ่ายทหารกัมพูชาใช้ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง หรือปรส. ไม่ทราบขนาด ยิงมา 1 นัด ตกใกล้ฐานทหารไทย ทหารไทยจึงยิงโต้ตอบกับไป การยิงโต้ตอบไม่ได้ต้องการขยายให้เกิดการปะทะ แต่ต้องดำเนินการตามกฎของการใช้กำลัง เพื่อให้อีกฝ่ายทราบว่ามีกระสุนข้ามมาตก ขณะนี้หน่วยในพื้นที่ยังเชื่อว่าอาจจะไม่เกิดจากความตั้งใจของใครคนใดคนหนึ่ง เพียงแต่อาจจะเป็นความผิดพลาดจากกรณีหนึ่งกรณีใด
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 รายงานพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. รับทราบ พร้อมกับติดต่อประสานงานกับผู้บังคับหน่วยของกัมพูชา เพื่อควบคุมการปะทะให้อยู่ในขอบเขตจำกัดและจบสิ้นโดยเร็ว ขณะเดียวกันได้รับทราบรายงาน ทหารกัมพูชาควบคุมตัวทหารไทยไว้แล้ว 5 นาย อย่างไรก็ตามการปฏิบัติของทหารไทยได้ปฏิบัติถูกต้องทุกอย่าง เมื่อเขายิงเข้ามา เราต้องยิงตอบโต้กลับไป เป็นหลักของการปะทะ โดยเบื้องต้นยังไม่พบว่าผู้ใดบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นทหารไทย ประชาชนไทย ทหารกัมพูชา หรือประชาชนกัมพูชา ขณะเดียวกันมีรายงานว่าชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวอพยพเข้าไปอยู่ในหลุมหลบภัยแล้ว ส่งผลให้สถานการณ์ขณะนี้ตึงเครียด
"เตียบัน"อ้างทหารไทยล้ำเขต
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า แหล่งข่าวระดับสูงของกองทัพกัมพูชาเปิดเผยว่า การยิงปะทะกันระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย บริเวณพื้นที่แถบปราสาทเขาพระวิหาร เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 15.15 น. ภายหลังจากทหารไทยนำรถแทรกเตอร์เกลี่ยดินเข้าไปปรับพื้นที่ตรงแนวชายแดนและรุกล้ำเข้ามาในดินแดนของกัมพูชา ขณะเดียวกันทหารกัมพูชาพยายามห้ามไม่ให้ทหารไทยนำรถแทรกเตอร์เข้าไปบริเวณหน้าปราสาทพระวิหาร แต่ทหารไทยไม่ยอมฟัง จึงเกิดการปะทะกันทางทหารขึ้นเพื่อปกป้องดินแดนกัมพูชา ซึ่งฝ่ายกัมพูชอ้างด้วยว่าจับกุมตัวทหารไทยเอาไว้ 5-6 นาย โดยบางนายยกมือยอมจำนน ขณะนี้ฝ่ายไทยได้ติดต่อขอเจรจากับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกัมพูชาแล้ว
ด้านพล.อ.เตีย บัน รองนายกฯและรมว.กลาโหมกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซินหัว ว่า ฝ่ายกัมพูชาได้เตือนฝ่ายไทยแล้วไม่ให้รุกล้ำเข้ามายังดินแดนกัมพูชา แต่ฝ่ายไทยล่วงละเมิดคำเตือน ฉะนั้นจึงต้องยิงเพื่อปกป้องแผ่นดินของเรา ส่วนอาวุธที่ยิงปะทะกันนั้นมีทั้งจรวด ปืนกล ปืนใหญ่ และปืนค
ยิงกันขณะ"กษิต"เยือนเขมร
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ทหารไทยและกัมพูชาเปิดฉากปะทะกันตามบริเวณชายแดนใกล้กับวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ นายเขียว กันหะฤทธิ์ โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ยืนยันว่าการสู้รบยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทหารกัมพูชาตรึงกำลังใกล้ปราสาทพระวิหาร ซึ่งมีรายงานว่าใช้ปืนใหญ่ สู้รบกันด้วย แต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นปืนใหญ่ขนาดเท่าใดหรือฝ่ายใดเป็นฝ่ายยิง
เอเอฟพีรายงานอีกว่า เหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กำลังเยือนกัมพูชาเพื่อร่วมประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชาและมีกำหนดไปเยี่ยมนายวีระ สมความคิด และน.ส. ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่เรือนจำเปรซอว์
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการกัมพูชาเปิดเผยว่า ผลจากการปะทะทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 2 นาย ขณะที่นายฮอร์ นัม ฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลกัมพูชาจะยื่นเรื่องร้องเรียนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าไทยเป็นฝ่ายล่วงละเมิดรุกรานดินแดนกัมพูชา โดยทหาร ไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อนและล้ำแดนกัมพูชาเข้าไปประมาณ 500 เมตรจนถึงบันไดขั้นที่ 1 ของปราสาทพระวิหาร
สายตรงรายงาน"มาร์ค"
เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ นายกฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญา มีโทรศัพท์สายตรงเข้ามาถึงนายกฯ รายงานสถานการณ์การยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ หลังจากวางสายแล้วนายกฯ ไม่ได้พูดอะไร
ต่อมาเวลา 16.40 น. นายสุเทพ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า ได้รับรายงานจากทหารในพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่ต้องพูดอะไรกัน รอให้ชัดเจนในรายละเอียดมากกว่านี้ก่อน เมื่อถามว่าตกลงฝ่ายใดยิงก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า เอาเป็นว่าเขายิงมา เราก็ยิงสวนไป และยังไม่ได้ได้รับรายงานเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้น
นายสุเทพให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังการหารือกับฝ่ายความมั่นคงนาน 1 ช.ม.ว่า ยังพูดรายละเอียดเรื่องเหตุการณ์ไม่ได้ จนกว่าจะได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ ขณะนี้ได้รับรายงานเหตุการณ์เรื่องที่ทหารไทยกับกัมพูชายิงกันเท่านั้น และยังไม่ได้รับรายงานเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ได้ติดตามสถาน การณ์มาตั้งแต่เวลา 15.00 น. แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข่าวว่าทหารกัมพูชาจับกุมทหารไทยถึง 5 นาย และยิงเล็งเข้าใส่ชุมชนมากกว่ายิงตามแนวชายแดน นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูด รอรายงานก่อน ขณะนี้แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว และคงไม่ต้องกำชับอะไรเป็นพิเศษ เพราะทำตามหน้าที่ตามสถานการณ์อยู่แล้ว เมื่อถามว่าขณะนี้อพยพประชาชนในพื้นที่แล้วหรือยัง นายสุเทพ กล่าวว่า ยังรอรายงานสถานการณ์ก่อน
เข้าไปอยู่ในอุโมงค์หลบ ภัย ระหว่างเกิดเหตุปะทะกันของทหารไทย-กัมพูชา
บริเวณภูมะเขือ ใกล้เขาพระวิหาร เมื่อวันที่ 4 ก.พ.
ประเมินม็อบวันเสาร์พันต้นๆ
พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินแก้ว รองผบช.น. ให้สัมภาษณ์ว่า นายสุเทพสอบถามถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งตำรวจยืนยันว่าจะรักษาสถานที่ราชการสำคัญ ทั้งทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา ไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกเข้ามาได้ ตามแผนกรกฎ 52 ใช้กำลัง 16 กองร้อยเท่าเดิม หากผู้ชุมนุมเข้ามาจะจับทันที
รองผบช.น. กล่าวอีกว่า ประเมินจำนวนผู้ชุมนุมสูงสุดไม่น่าจะเกิน 1,800-2,000 คน เพราะเท่าที่ตรวจสอบการระดมคนในภาคใต้ อาทิ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เตรียมรถไว้ 5 คัน แต่จนถึงช่วงเย็นวันที่ 4 ก.พ.มีคนมาขึ้นรถยังไม่เต็ม 2 คันเลย ส่วนภาคตะวันออก เช่น จ.ชลบุรี มีคนมาขึ้นรถเพื่อเข้ามาร่วมชุมนุมในกทม.จำนวนน้อยมาก
"จำลอง"ซ้ำนายกฯ คือต้นเหตุ
ที่หน้ากระทรวงศึกษาฯ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แถลงว่า กรณีเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ ตนได้รับรายงานจากกลุ่มพันธมิตรในพื้นที่แล้ว โดยระบุว่าทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ก่อน แต่เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันว่าจริงหรือไม่ ส่วนความเสียหายก็ยังไม่สามารถระบุได้ เพราะขณะนี้ยังปะทะกันอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และเราไม่ได้แสดงอาการดีใจ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวมีแต่ความสูญเสียเกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย ถ้ารัฐบาลทำตามที่พันธมิตรเสนอแนะก่อนหน้านี้จำนวน 3 ข้อ คงไม่มีการปะทะกันเกิดขึ้นแน่นอน เพราะถือเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ นายกฯ พูดผิดมาตลอด
พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าเราไม่ได้เป็นชนวนทำให้เกิดสงคราม เพราะเราพูดข้อเสนอต่อนายกฯ มา 2 ปีแล้ว เหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นก็ยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด ยืนยันว่าการแสดงแสนยานุภาพทางกองทัพ ที่พันธ มิตรเสนอไปก่อนหน้านี้ ไม่ได้สนับสนุนการปะทะ เพียงแต่ระบุว่าการสะสมอาวุธจะทำให้ไม่เกิดสงคราม เพราะถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าเรามีอาวุธที่เหนือกว่าการปะทะก็จะไม่เกิด ดังสำนวนที่ตนเคยท่องไว้ตอนเด็กๆ ว่า "แม้หวังรักสงบ พึงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ" ไม่ใช่หวังสงบแล้วนั่งอยู่เฉยๆ นอก จากนี้ยังได้รับรายงานข่าวล่าสุดด้วยว่ามีการเผาวัดแก้วฯ ส่วนจะลุกลามบานปลายหรือไม่นั้น ไม่ทราบ
"เหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นเป็นเพราะว่าเขาเห็นนายกฯ ของไทยยุคนี้อ่อนแอไร้ประสิทธิ ภาพ ซึ่งพันธมิตรไม่ได้เป็นตัวจุดชนวน เป็นเพราะนายกฯ ไม่เชื่อเรา และไม่ทำตามเราตั้งแต่แรก ไม่เช่นนั้นสงครามก็ไม่เกิด" พล.ต. จำลองกล่าว
ค่ำวันเสาร์รู้เคลื่อนม็อบ
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีการปะทะกันถือว่าวิกฤตหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่เห็นวิกฤตเลยถ้าวิกฤตจริงก็ต้องเกิดเหตุการณ์ระเบิดรุนแรงที่กรุงพนมเปญ เมื่อถามถึงการยกระดับการชุมนุมโดยถามฉันทามติประชาชนวันที่ 5 ก.พ.นั้นมีแนวทางอย่างไรบ้าง พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ต้องรอดูผลฉันทามติของประชาชนว่าจะให้แกนนำทำอย่างไรบ้าง นายกฯ จะรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งการถามฉันทามติจะมีขึ้นช่วงค่ำ ส่วนจะมีความเคลื่อนไปที่ไหนอย่างไรยังบอกไม่ได้ในขณะนี้ว่าเราจะเคลื่อนเข้าทำเนียบรัฐบาล หรือไปที่ไหน อย่างไร เพราะการดำเนินการต้องสุขุมรอบคอบ และขณะนี้จำนวนไม่ใช่อุปสรรค เท่าที่มีขณะนี้สามารถกดดันนายกฯ ได้
1 ทุ่ม"มาร์ค"แจงหยุดยิงแล้ว
เวลา 19.00 น. ที่โรงแรมโซฟิเทล ลาดพร้าว นายอภิสิทธิ์ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาว่า เรื่องนี้กองทัพจะแถลง เมื่อถามว่าได้รับรายงานผู้เสียชีวิตหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. รายงานให้ทราบ ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่มีคนบาดเจ็บ 4 ราย ส่วนสถานการณ์ขณะนี้หยุดยิงแล้ว และเราได้ตอบโต้ไปด้วย
ด้านนายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวง มหาดไทย กล่าวว่า ได้รับรายงานจากผู้ว่าฯ ศรีสะเกษว่า บริเวณที่เป็นปัญหา ฝ่ายปกครองทำหน้าที่สนับสนุนด้านการดูแลประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเมื่อมีการเตือนภัย ประชาชนได้ลงหลุมหลบภัยที่เตรียมไว้แล้ว จากนั้นเมื่อเหตุการณ์เริ่มสงบ ได้อพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่การสู้รบ กระทรวงมหาดไทยตั้งศูนย์เพื่อเป็นหน่วยข่าว รับทราบและรายงานสถาน การณ์ ล่าสุดได้รับรายงานจากผู้ว่าฯ ศรีสะ เกษว่า อพยพราษฎรแล้ว 5 หมู่บ้าน 600 ครัวเรือน ไปอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งอยู่ห่างจากแนวชายแดน 15 ก.ม. อย่างไรก็ตามเตรียมอพยพประชาชนที่อยู่ในจุดเสี่ยง 3 ตำบล 19 หมู่บ้านของอ.กันทรลักษ์ ทั้งนี้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย สั่งการผู้ว่าฯ 3 จังหวัด ทั้งจ.ศรีสะเกษ สุรินทร์ และสระแก้ว เตรียมความพร้อมหากเกิดสถาน การณ์ฉุกเฉินและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ชาวบ้านตาย 1-ทหารเจ็บ 9
ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงมหาดไทย (ศปก.มท.) รายงานการชุมนุมของกลุ่มพันธ มิตรที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า คืนวันที่ 3 ก.พ.มียอดผู้ชุมนุมสูงสุดประมาณ 1,200 คน ช่วงเช้าวันที่ 4 ก.พ.ยอดผู้ชุมนุมประมาณ 300 คน ช่วงบ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 500 คน ส่วนกลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ยอดผู้ชุมนุมประมาณ 300 คน
ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สา ธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา มีพลเรือนเสียชีวิต 1 คนชื่อ นายเจริญ ผาหอม อายุ 59 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยกระสุนปืนตกลงหลังคาบ้านพักเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นทหารประจำการ และทหารพรานรวม 9 นาย ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิด ประกอบด้วย 1.ส.อ.ธีระวัฒน์ ศรีวรินทร์ อายุ 26 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกายเล็กน้อย รู้สึกตัวดี 2.ส.อ.มงคล พลเยี่ยม อายุ 49 ปี มีเลือดออกใต้ตา จากแรงระเบิด 3.ทหารพรานดำรงค์ พรหมโคตร อายุ 51 ปี มีอาการหูอื้อจากแรงระเบิด และมีบาดแผลที่หลังมือ 4.จ.ส.อ.วิรัตน์ งามสูงเนิน อายุ 49 ปี มีอาการปวดศีรษะ จากแรงระเบิด 5.ทหารพรานสุวรรณ ก่อแก้ว อายุ 40 ปี มีบาดแผลที่ศีรษะยาว 4-5 ซ.ม.
6.ทหารพรานสาธร สระพา อายุ 32 ปี 7.พลทหารวิทยา ศรีมันต์ อายุ 22 ปี มีบาดแผลที่ขาซ้ายจากสะเก็ดระเบิด 8.จ.ส.อ.สุมนต์ จำประโคน อายุ 50 ปี มีบาดแผลที่แขนทั้ง 2 ข้างจากสะเก็ดระเบิด และ9.ทหารพรานเสถียร ศรีมุกดา อายุ 46 ปี มีบาดแผลที่ใบหน้า จากสะเก็ดระเบิด ทั้งหมดอาการปลอดภัยรักษาตัวที่ร.พ.กันทรลักษ์
น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สั่งการหน่วยการแพทย์สังกัดกระทรวงสาธารณสุข เตรียมความพร้อมช่วยเหลือหากมีเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะ ร.พ.อุบลราชธานี ร.พ.สุรินทร์ ร.พ.ศรีสะเกษ และให้สำรองยาและเวชภัณฑ์ไว้รองรับ สถานการณ์
น.พ.วันชัย เหล่าเสถียรกิจ ผอ.ร.พ. กันทรลักษ์ กล่าวว่า ทางร.พ.เตรียมพร้อมแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ช.ม. โดยตลอดคืนนี้จะมีแพทย์ประจำการ 14 คน ส่วนเหตุปะทะในช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ร.พ.ได้รับประสานจากทหารให้รับตัวทหาร 1 นาย ถูกสะเก็ดระเบิดเล็กน้อยตามร่างกาย และรู้สึกดี ชื่อส.อ.ธีระวัฒน์ ศรีวรินทร์ ทหารประจำการที่ผามออีแดง
"บิ๊กป้อม"สายตรงฮุนเซนหยุดยิง
ด้านนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สั่งชะลอการจัดงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้า และการลงทุน ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่กำหนดจัดที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 17-20 ก.พ.นี้ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อความปลอดภัยของคนไทย เนื่องจากจะต้องนำคณะผู้ประ กอบการจากประเทศไทยไปร่วมงานแสดงสินค้าที่กัมพูชาด้วย สำหรับการค้าชายแดนขณะนี้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คาดว่าการค้าขายคงต้องหยุดชะงักลง โดยพ่อค้าแม่ค้าทั้งกัมพูชาและไทยอพยพกลับประเทศแล้ว ทั้งนี้การค้าขายที่ด่านช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ตกปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท
เมื่อเวลา 19.05 น. สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สถานีโทรทัศน์กัมพูชา เทเลวิชั่น เน็ตเวิร์ก (ซีทีเอ็น) รายงานว่า ฝ่ายกัมพูชากับไทยบรรลุข้อตกลงหยุดยิงแล้ว หลังจากรมว.กลาโหมของไทยต่อโทรศัพท์สายตรงพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา
ภูมิซรอลถูกถล่มเสียหายหนัก
เมื่อเวลา 18.10 น. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ และคณะ เดินทางไปยังบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ เพื่อตรวจสอบและช่วยเหลือชาวบ้านที่บ้านเรือนถูกกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาจนเกิดเพลิงลุกไหม้และเสียหาย จากการสำรวจเบื้องต้นมีบ้านเรือนชาวบ้านเสียหาย 5 หลัง และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายเจริญ ผาหอม อายุ 59 ปี ถูกกระสุนปืนใหญ่ตกใส่เสียชีวิตคาที่
ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวว่า ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสำรวจความเสียหาย และจัดตั้งศูนย์อพยพชาวบ้านที่หอประชุมที่ว่าการอ.กันทรลักษ์และอีกหลายแห่งในอ.กันทรลักษ์ ขณะนี้มีชาวบ้านอพยพหนีภัยสงครามมาพักอยู่จำนวนมาก พร้อมทั้งจัดหาข้าวสารอาหารแห้งช่วยเหลือชาวบ้าน ส่วนบ้านเรือนที่เสียหายจะให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ที่บริเวณภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหารติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงถล่มใส่ทหารไทยโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่ได้ยิงโต้ตอบกลับทันที จากนั้นทหารทั้ง 2 ฝ่ายใช้ปืนใหญ่ยิงถล่มใส่กันอย่างต่อเนื่องเป็นร้อยๆ นัด กระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาเข้ามาตกในเขตบ้านภูมิซรอล และบ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้บ้านเรือนและสวนของชาวบ้านเสียหายจำนวนมาก
ชาวบ้านอพยพหนีห่าลูกปืน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากทหารทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มยิงถล่มกันด้วยปืนใหญ่ ชาวบ้านหลายหมู่บ้าน เช่น บ้านภูมิซรอล บ้านโนนเจริญ บ้านโศกขามป้อม บ้านภูผาหมอก บ้านโนนดู่ และบ้านบึงมะลู ต่างหอบลูกจูงหลานหนีเข้าไปหลบในหลุมหลบภัยที่จัดสร้างเตรียมไว้ จากนั้นอาศัยช่วงจังหวะที่เสียงปืนเว้นระยะพากันออกจากหลุมหลบภัยขึ้นรถปิกอัพและรถไถนาอย่างเร่งรีบเข้ามาในเขตตัวอ.กันทรลักษ์ เพื่อหนีภัยสงครามกันอย่างโกลาหล
ไทยยิงโต้ไฟไหม้ใกล้วัดแก้ว
ขณะเดียวกันบริเวณด้านทิศตะวันตกรอบเขาพระวิหาร กระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายไทยได้ยิงถล่มใส่ทหารกัมพูชาจนเกิดเพลิงไหม้รอบบริเวณเขาพระวิหาร ใกล้กับวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ควันจากเพลิงไหม้ได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ามองเห็นในระยะไกลได้อย่างชัดเจน ขณะที่ทหารไทย ชุดประสานงานจำนวน 5 นาย ประจำอยู่ที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับหน่วยเหนือได้รับทราบ
เวลา 17.00 น. พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะ เดินทางมาบริเวณที่มีการปะทะกัน จากนั้นพล.ท.ธวัชชัยพูดคุยโทรศัพท์กับพล.ท.ซะรัย ดึ๊ก ผบ.กองกำลังทหารกัมพูชาที่รับผิดชอบบริเวณเขาพระวิหาร จนมีการหยุดยิงแล้วเข้าเจรจากันนานประมาณ 30 นาที เสียงปืนใหญ่จากฝั่งกัมพูชาจึงสงบลง ทหารไทยก็หยุดยิงเช่นกัน ส่วนชาวบ้านยังคงอพยพเข้าไปในตัวอ.กันทรลักษ์อย่างต่อเนื่อง จนหมู่บ้านกลายเป็นหมู่บ้านร้าง มีเฉพาะทหารและตชด.เข้าไปดูแลพื้นที่
ปืนใหญ่ตกใส่ร.ร.2 ลูก
นายฉลวย มีผุย รองนายกอบต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า ทหารกัมพูชายิงปืนใหญ่เข้ามาชุดละประมาณ 10 นัด 3 ชุด รวมประมาณ 30 นัด และกระสุนปืนใหญ่ได้ตกใส่บ้านเรือนชาวบ้านภูมิซรอลเสียหาย 5 หลัง หลังคาที่ทำการอบต.เสาธงชัย ซึ่งอยู่ติดกับหมู่บ้านภูมิซรอลเสียหาย และมีกระสุนปืนใหญ่ตกใส่หลังคาโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา 2 ลูก ได้รับความเสียหายยับเยิน อีกทั้งสวนยางของชาวบ้านถูกกระสุนปืนใหญ่ตกใส่เกิดไฟไหม้สวนยางเสียหายประมาณ 50 ไร่ มีชาวบ้านเสียชีวิตคาที่ และบาดเจ็บอีก 5 ราย ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.กันทรลักษ์
"ประยุทธ์"แจงเหตุเข้าใจผิด
เมื่อเวลา 21.00 น.ที่กองการบิน ขส.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สถานการณ์ยุติลงแล้วตั้งแต่เวลา 18.00 น โดยทั้งสองฝ่ายหยุดปะทะกันและอยู่ในความสงบ ซึ่งตลอดเวลาที่เกิดการปะทะตั้งแต่เวลา 15.15 น. มีการพูดคุยกันตลอด แต่เข้าใจว่าเมื่ออยู่ในสนามรบค่อนข้างยากที่จะติดต่อกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราไม่อยากโทษว่าใครเริ่มก่อน เพราะจะไม่จบเสียที คิดว่าต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ขณะนี้ยังไม่ทราบการสูญเสีย แต่ฝ่ายเราบาดเจ็บเล็กน้อย และมีประชาชนบาดเจ็บเพราะมีกระสุนปืนใหญ่บางนัดตกเข้ามาในฝังไทยหลังแนวเขาพระวิหาร ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีทหารถูกทางการกัมพูขาจับกุมตัวไป ทั้งนี้กำลังทั้งสองฝ่ายอยู่ใกล้กัน และแนวปะทะอยู่ห่างกันไม่กี่เมตร ดังนั้นอะไรต่างๆก็เกิดขึ้นมา เกิดจากความเข้าใจผิดกันก็ได้ อย่าลืมว่าอยู่ในสนามรบกดดัน ดังนั้นเวลามีอะไรผิดปกติขึ้นมาก็แน่นอนว่าจะมีคนที่ทำให้เป็นสาเหตุสำคัญให้เกิดเหตุขึ้นมาได้ แต่เราพยายามอย่างดีที่สุดที่จะไม่ทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เราไม่ได้ถอนกำลังทหารไปไหน กำลังทหารมีอยู่ทั้งแนวจากซ้ายไปขวา ตั้งแต่เขาพระวิหารไปยังภูมะเขือ ส่วนทหารกัมพูขาก็อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเรา ทั้งนี้คงไม่ต้องเสริมกำลังเพราะขณะนี้มีเยอะอยู่แล้ว แต่ได้เตรียมหลุมบุคคลรวมถึงแผนอพยพประชาชน เพราะตามแนวชายแดนอันตราย อย่างไรก็ตามต้องพูดคุยกันระดับข้างบน ขณะนี้รมว.กลาโหมได้พูดกับผู้นำกัมพูชา และนายกฯก็ทราบเหตุการณ์เป็นอย่างดี และสั่งการว่าต้องทำให้สถานการณ์สงบโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียของทั้งสองฝ่าย
ตอบไม่ได้เกิดอีกหรือไม่
"ผมตอบไม่ได้ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ เพราะตราบใดที่มีการยั่วยุกันอยู่ก ็พร้อมเกิดเหตุการณ์ได้ตลอดเวลา แต่ในฐานะผู้รับผิดชอบจะพยายามทำไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงและพยายามป้องกันทหารไม่ให้บาดเจ็บ และดูแลประชาชนให้ปลอดภัย ทั้งนี้ถ้ามีการรบกันจะต้องเตรียมยานพาหนะ หรือเส้นทางการเคลื่อนย้าย ซึ่งกองทัพเตรียมแผนไว้หมด ซึ่งเรามีทหารฝ่ายละ 5 คนในการเจรจาประสานงาน ใครอยากรบมาที่เขาพระวิหารเลย และเราอยู่ตอนที่เขายิงปืนใหญ่กัน" ผบ.ทบ.กล่าว
"กษิต"ฟ้องยูเนสโก
ต่อมาเวลา 22.00 น.นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า อย่าเพิ่งคาดการณ์ไปเองว่าจะกระทบความสัมพันธ์มากน้อยแค่ไหน เพราะทุกฝ่ายพยายามแก้ไข ส่วนกรณีที่กัมพูชาแจ้งว่าจะส่งเรื่องร้องเรียนไปสหประชาชาตินั้น จดหมายคงยังไปไม่ถึง และสำหรับตนก็มีหนังสือไปถึงองค์การยูเนสโกเช่นกัน เพราะต้องการให้คณะกรรมการยูเนสโกควรต้องรับรู้ว่า สถานการณ์ที่บริเวณนี้เปราะบางแค่ไหน ไม่ใช่มัวแต่คิดว่าตนเองเป็นหน่วยงานด้านวัฒนธรรมเท่านั้น โดยไม่สนใจในเรื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์นี้จะกระทบต่อกรณีคดีความของนายวีระและน.ส.ราตรีหรือไม่ นายกษิตกล่าวสั้นๆว่า "ไม่กระทบ"