รายงานข่าวจากผู้ค้าน้ำมัน เปิดเผยว่า ปัจจุบันค่าการตลาดน้ำมันดีเซลของ ปตท. และบางจาก
เฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำที่ 60 สต. ต่อลิตร จึงต้องการให้คณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณานำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาอุดหนุนราคาดีเซลเพิ่มเติม เพราะหากไม่ดำเนินการคงจะต้องปรับราคาขายปลีก เนื่องจากค่ายน้ำมันอื่น ๆ มีการปรับราคาดีเซลในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลไปอยู่ที่ระดับ 30.29 บาทต่อลิตรหมดแล้ว ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมัน ดีเซลบี 3 และบี 5 ของ ปตท. และบางจากตรึงไว้ที่ 29.99 บาทต่อลิตร
“ปตท. และบางจากก็พยายามที่จะดูแลระดับราคาขายปลีกแต่ยอมรับว่าเหตุการณ์น้ำมันตลาดโลกที่สูงขึ้นเป็นเรื่องผิดปกติที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้ค่าการตลาดต่ำมาก ส่วนกลุ่มเบนซินเฉลี่ยค่าการตลาด 1.30 บาทต่อลิตรหลังปรับราคาขึ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กพ. ที่ผ่านมา 30 สต.ต่อลิตร หากตลาดโลกยังคงขยับอีกราคาก็ยังคงมีทิศทางขาขึ้นเช่นกัน”
รายงานข่าวจากไทยออยล์แจ้งว่า ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดวันที่ 2 ก.พ.
เบรนท์ขึ้น 0.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลปิดที่ 102.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดูไบปรับขึ้น 1.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลปิดที่ 97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ เบนซิน 95 ปรับขึ้น 1.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลปิดที่ 110.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดีเซลขึ้น 1.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลปิดที่ 113.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านน้ำมัน กล่าวว่า ค่ายน้ำมันต่างชาติและรายอื่น ๆ เว้น ปตท.และบางจากมีการทยอยปรับราคาน้ำมันขายปลีกกลุ่มดีเซลไปเกินระดับ 30 บาทต่อลิตร แล้ว
โดยมาอยู่ที่ 30.29 บาทต่อลิตร แม้ว่า กบง. ก่อนหน้าจะได้มีการนำเงินกองทุนน้ำมันฯมาชดเชยราคาให้ลิตรละ 65 สต. ก็ตามแต่ค่าการตลาดได้ลดต่ำลงอีกเพราะราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงขึ้นต่อเนื่อง หาก กบง. ช่วยชดเชยอีกครั้งก็ยังไม่แน่ใจว่าราคาจะลดต่ำลงมาไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ได้หรือไม่
“น้ำมันยังคงขยับต่อเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอียิปต์ หลังมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มผู้ต่อต้านประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ซึ่งต้องติดตามเหตุการณ์ที่อียิปต์ช่วงสุดสัปดาห์นี้ว่าคืนสู่ภาวะปกติได้เร็วหรือไม่หากยังไม่คลี่คลายคาดว่าราคาน้ำมันจะยังคงขยับต่ออีกในสัปดาห์หน้า จึงเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรจะขยายวงเงินการดูแลราคาดีเซลที่กำหนดไว้ 5,000 ล้านบาทเพิ่มอีกเพราะมันไม่มีประโยชน์”
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่า ขณะนี้วงเงินกองทุนน้ำมันฯที่จะดูแลดีเซลเหลือไม่ถึง 2,000 ล้านบาทหรือเหลือการดูแลได้เพียง 10 วันเท่านั้นหากอุดหนุนเพิ่มก็คงจะต้องมากกว่า 50 สต. ต่อลิตรจึงจะเบรกไม่ให้ราคาดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตรได้
“ต้องยอมรับว่าในที่สุดแล้วคงจะต้องมีการหารือคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่าจะดำเนินการช่วยเหลืออย่างไรต่อไปซึ่งหากคลังไม่ลดภาษีสรรพสามิตก็มีข้อเสนอที่กระทรวงพลังงานทำไว้คือ การขยายเงินช่วยเหลือจากกองทุนน้ำมันฯที่มีอยู่ประมาณ 2 หมื่นกว่าล้านบาทมาให้เพิ่มเติมอีก 2,000-3,000 ล้านบาท”.