นศ.ไทยตกค้างอียิปต์โอด จนท.ไม่เหลียวแล

นศ.ไทยที่ตกค้างในอียิปต์เผย คนไทยผวา อยากกลับบ้าน เงินและอาหารเริ่มหมด วอนทางการไทยช่วยด่วน

เมื่อเวลา 01.45 น. วันนี้ (3 ก.พ.) หรือเวลา 20.45 น. วันที่ 2 ก.พ.ของอียิปต์ ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5 ชม. นายหะสัน กาเหย็ม อายุ 32 ปี ชาว จ.สงขลา ชาวไทย ซึ่งไปศึกษาปริญญาโท ในมหาวิทยาลัยไคโร ประเทศอียิปต์ ได้ติดต่อ และเปิดเผยเล่าเหตุการณ์กับผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ถึงความเป็นอยู่หลังวันแรกของการชุมนุม ว่า เมื่อ 25 ม.ค. ซึ่งเข้าสู่วันที่สองของการชุมนุม มีการประกาศเคอร์ฟิวส์กะทันหันโดยไม่ทันตั้งตัว ตอนนั้นคนงานไทย และนักศึกษายังอยู่นอกสถานที่อาศัยกันหลายชีวิต เนื่องจากไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ร้านค้าต่าง ๆ เริ่มทยอยปิดลง ทุกคนต่างรีบไปซื้อของ เพื่อกักตุนอาหารเป็นจำนวนมาก แต่สินค้าทุกอย่างเริ่มราคาสูงขึ้น กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มมากขึ้น และกลุ่มโจรก็ออกมาแฝงตัวเข้ากับเหตุการณ์ และกระจายไปตามชุมชนต่าง ๆ ทั่วทั้งประเทศ เนื่องจากง่ายแก่การปล้นชิงลักทรัพย์ เพราะบรรดาเหล่าทหารทั้งหมดต้องออกไปรับมือกับกลุ่มที่เริ่มขยายตัวมากขึ้น

“หลังจาก 18.00 น. ขบวนรถถังของเหล่าทหารก็ลาดตระเวนไปทั่วทั้งเมือง ชาวบ้านต้องออกมาพร้อมมีอาวุธเป็นไม้ หรือมีด เพื่อระมัดระวังกลุ่มโจรที่อาศัยช่วงเวลาที่กำลังปั่นป่วน  ปล้นบ้านทั่วเมือง ซึ่งเป็นวันที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก เพราะต่างคนต่างหวาดระแวง เป็นแบบนี้กันทั้งประเทศ แต่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะอยู่ในบ้านกันทั้งหมด ไม่มีใครกล้าออกไป รอฟังแค่เสียงที่ตะโกนกันไปลั่นเมืองของชาวบ้านเท่านั้น”

และในวันที่ 26 ม.ค. เวลา 23.45 น. สัญญาณอินเทอร์เน็ตถูกตัดหมดทั่วประเทศ และถัดมา เวลาประมาณ 05.00 น. สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดอีก 2 วัน

หลังจากนั้น เมื่อการสื่อสารทั้งหมดถูกปิด การสื่อสารทั้งหมดขาดหาย ไม่มีใครกล้าออกไปไหน เนื่องจากไม่สามารถติดต่อกับใคร ๆ ได้ ทางสถานทูตของหลายประเทศทั่วโลกก็พยายามทยอยนำเครื่องบินไปรับคนของประเทศตัวเองกลับประเทศไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนงาน เจ้าหน้าที่สถานทูต และนักศึกษา ในวันที่ 27 ม.ค. มีข่าวประกาศว่าทรัพย์สินของรัฐถูกทำลายโดยผู้ชุมนุมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเมืองหลวงกรุงไคโร สถานีตำรวจโดนเผาเกือบ 10 แห่ง รถตำรวจ ห้างคาร์ฟูถูกเผา และกลุ่มโจร รวมทั้งผู้แอบแฝงตัวเป็นโจรก็เข้าไปลักขโมยของในห้างจนหมดเกลี้ยง เพราะช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ประชาชนขาดแคลนอาหาร ฯลฯ เนื่องจากบางพื้นที่ร้านค้าปิดหมด ในขณะที่ ร้านค้าอีกหลายร้านที่ถูกพังเข้าไป ธนาคารหลายแห่งถูกเผา และบุกปล้น จนถึงวันนี้ระบบออนไลน์ของธนาคารเริ่มไม่สะดวกขึ้น กดเงินออกบ้างไม่ออกบ้าง ทำให้ไม่มีใครกล้าไปกดเงิน


วันนี้หลายคนต้องการกลับบ้าน เนื่องจากความกลัว โดยเฉพาะผู้หญิง

เพราะมีข่าวประกาศลอย ๆ มาว่า ทางประเทศไทยจะส่งเครื่องมารับกลับไทย แต่การประกาศ และการรวมตัว นั้น เป็นแค่ข่าว เพราะไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย เพราะถึงกลับก็คงไม่ทัน เพราะการประกาศอยู่หลังช่วงเวลาของการเคอร์ฟิวส์ไปแล้ว ตอนนี้หลาย ๆ คนกลัวมาก เงินเริ่มหมด อาหารเริ่มหมด แม้กระทั่งจิตใจก็เริ่มอ่อนล้าลงมาก อยากได้ยินเสียงจากท่านทูต หรือเจ้าหน้าที่ เพื่อเสริมสร้างความอบอุ่นบ้าง เพราะทุกคนมีแต่ความเสี่ยงอยู่รอบตัว

“ตอนนี้ผมออกจากบ้านได้วันละ 3-5 ชม. คือ ประมาณ 09.00-14.00 น. ทุกคนกลัว และผวากันหมด โดยเฉพาะผู้หญิง และเด็ก อินเทอร์เน็ตเพิ่งเปิดใช้ได้หลังถูกตัดมาเกือบ 10 วัน ร้านขายของก็ปิด ไม่กล้าเปิด ตอนนี้เพื่อนต่างชาติกลับกันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย มาเลเซีย จีน รัสเซีย ยุโรป” นายหะสัน กล่าว

เตรียมประสานข้อมูลนักเรียนไทยมีภาวะเครียด

นพ.อภิชัย มงคล อธิดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง กรณีที่มีนักเรียนไทยในอียิปต์มีภาวะเครียด เงินเริ่มหมด ข้าวของราคาแพง ไม่กล้าออกจากที่พัก และบางส่วนอยากกลับประเทศไทย ว่า สถานทูตมีช่องทางในการติดต่ออยู่แล้ว หากคนที่ต้องการกลับประเทศไทย เรื่องกลับคงไม่ยาก แต่หลายคนกลับมาแล้วการจะกลับไปอีกครั้งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ทั้งนี้ หากมีปัญหาเกิดขึ้น ก็มีสมาคมนักเรียนไทยเป็นตัวกลางประสานในเบื้องต้นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จะประสานขอข้อมูลไปยังเอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์อีกครั้ง เพื่อรับทราบปัญหาอีกครั้ง ซึ่งกรมสุขภาพจิตพร้อมให้การดูแลในส่วนนี้

นพ.อภิชัย กล่าวว่า ในรอบแรกที่กระทรวงการต่างประเทศร้องขอให้กรมสุขภาพจิตสิ่งจิตแพทย์ไปรับนักท่องเที่ยวไทยกลับประเทศนั้น
 
ปรากฏว่า จิตแพทย์ที่เดินทางไปด้วยต้องอยู่แต่ในห้องรับรอง ได้ทำงานจริง ๆ ก็ตอนขึ้นเครื่องแล้ว ผลการตรวจสุขภาพจิต พบว่า มีเพียง 2 คนเท่านั้น ที่มีความวิตกกังวลมาก โดยคนแรกเป็นโรคไตพกยาติดตัวไปน้อย กลัวยาจะหมด แต่พอถึงประเทศไทยอาการก็ดีขึ้น ส่วนอีกคนกลัวไม่ได้กลับประเทศไทย พอถึงประเทศไทยก็สบายใจ สำหรับรอบ 2 นั้น กรมสุขภาพจิตไม่ได้ส่งจิตแพทย์ร่วมเดินทางไปรับคนไทยด้วย และกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้ประสานขอมาแต่อย่างใด คงจะคิดว่าไปแล้วทำงานได้ไม่สะดวก


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์