เมื่อ 31 ม.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า
ในช่วงเทศกาลตรุษ ตั้งแต่วันที่ 28-31 มกราคม 2554 กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะให้บริการตรวจวิเคราะห์สารเคมีในอาหารให้แก่ประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าฟรี ที่ตลาดเยาวราช เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจความปลอดภัยในอาหาร ส่วนกรมอนามัยมีข้อแนะนำประชาชนที่จะซื้ออาหารในช่วงเทศกาลตรุษจีน ในกรณีที่จะปรุงอาหารไหว้เจ้าด้วยตนเอง ให้ใช้หลัก 3 ส.คือ 1.สุกเสมอ 2.สะอาด คือวิธีการปรุงถูกสุขลักษณะ ล้างมือก่อนปรุง ระวังไม่ให้อาหารดิบสัมผัสกับอาหารที่ปรุงสุกแล้ว แยกใช้มีดและเขียงกับอาหารดิบและสุก และ3.สงวนคุณค่า เช่น ผักสดต้องล้างให้สะอาด แกะลอกเปลือกชั้นนอกทิ้ง ล้างผ่านน้ำไหลเพื่อกำจัดสารตกค้างออกไป ในการรับประทานผัก ให้ใช้วิธีการนึ่ง ลวก ก่อนนำมาผัดหรือผ่านความร้อนด้วยเวลาอันสั้น เพื่อไม่ให้อาหารเสียคุณค่า เป็นต้น
ด้านน.พ.ฆนัท ครุธกูล ผู้จัดการศูนย์หัวใจ หลอดเลือด และเมทแทบอลิซึม โรงพยาบาลรามาธิบดี และกรรมการเครือข่ายคนไทยไร้พุง
สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนมักมีของไหว้ประเภทหมูสามชั้น เป็ด ไก่ ผลไม้และขนมหวานที่เต็มไปด้วยแป้ง น้ำตาล และไขมัน ล้วนทำให้เกิดภาวะโรคอ้วนหรืออ้วนลงพุง ดังนั้นผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่าง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคเกาต์ ควรหยุดคิดสักนิดก่อนเลือกกินอาหารในช่วงตรุษจีนนี้ เพื่อไม่ให้น้ำหนักเพิ่มหรือกระตุ้นให้โรคประจำตัวกำเริบ
เคล็ดลับง่ายๆ คือ เลือกกินอาหารที่ปรุงด้วยการต้ม นึ่ง อบ แทนการทอดหรือผัด เลี่ยงเนื้อสัตว์ติดหนัง ติดมัน หมูสามชั้น ผัดผักน้ำมันเยิ้ม เป็นต้น
ทานผลไม้ในปริมาณจำกัดโดยเฉพาะที่มีรสหวาน เลี่ยงขนมต่างๆ และเลี่ยงการทานอาหารมื้อใหญ่อย่างโต๊ะจีน เพราะอาหารส่วนใหญ่เป็นแป้ง เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารทอดและถั่ว รวมถึงอาหารต้องจิ้มหรือเติมซีอิ๊วและน้ำปลา ซึ่งจะทำให้น้ำหนักเพิ่มและได้รับปริมาณโซเดียมสูง เสี่ยงต่อการเป็นโรคไตและความดันโลหิตสูง
“ผู้ป่วยโรคเกาต์มักเข้าใจผิดว่าไม่ควรทานไก่ เป็ด เครื่องในสัตว์ และยอดผัก เพราะปริมาณกรดยูริกมากกว่าอาหารชนิดอื่น แต่จริงๆ แล้วผู้ป่วยโรคเกาต์ทานเนื้อสัตว์ปีกได้ แต่ให้เลือกเนื้อส่วนอก งดช่วงขาและข้อ รวมถึงงดการทานน้ำซุปหรือน้ำต้มกระดูก นอกจากนี้ควรงดถั่วและขนมไหว้เจ้าที่ทำจากถั่ว เพราะถั่วมีสารพัวรีน ซึ่งใกล้เคียงกับเครื่องในเนื้อสัตว์ ที่สำคัญควรเลือกทานน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน และควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย” น.พ.ฆนัท กล่าว