เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ชายทะเล ม.2 ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช นายสมชาย ฉลาดเฉลียว อายุ 37 ปี อบต. ม.5 และนายศักดิ์สิทธิ์ ศิริสุข อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
นำนายสันติ นิลวรรณ นักวิชาการประมงศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง และผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบซากโลมา ซึ่งตายและลอยมาติดอยู่ที่บริเวณชายหาดริมทะเลสิชล โดยพบว่าโลมาตัวดังกล่าวตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 วัน สภาพเริ่มเน่าและส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง
นายสมชาย เล่าว่า ชาวประมงเจอซากโลมาดังกล่าวเมื่อ 6 วันที่ผ่านมา และแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ประมงเมื่อ 3 วันก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยฯ แจ้งว่าจะมาตรวจซากของโลมา เบื้องต้นพบว่าเป็นโลมาหลังโหนกเพศผู้ ตายจากการถูกเครื่องมือประมงได้รับบาดเจ็บ ประกอบกับคลื่นแรงจึงไม่สามารถช่วยตัวเองได้ถูกคลื่นซัดมาตายที่ชายหาดดังกล่าว ชายหาดบริเวณนี้จะมีโลมาฝูงใหญ่ไม่ต่ำกว่า 60 ตัว ทั้งสีเทาและสีดำ บางครั้งจะเข้ามากินปลาที่ติดอวนของชาวประมงโดยโลมาฝูงนี้จะคุ้นเคยกับประมงในพื้นที่มาก และเป็นที่น่าเศร้าใจที่ในรอบ 2-3 เดือนที่ผ่านมาได้มีโลมาตายแล้วถึง 3 ตัว โดยล่าสุดเป็นโลมาลูกอ่อน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยฯ กำลังตรวจซากโลมาอยู่นั้นได้มีชาวประมงโทรศัพท์แจ้งมาที่ตนว่าพบซากโลมาอยู่ที่บ้านปลายทอน ม.16 ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล อีกหนึ่งตัวซึ่งสภาพเน่าและคาดว่าตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 วันเช่นกัน ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการในเรื่องของเรืออวนรุนอย่างจริงจังก่อนที่โลมาและสัตว์น้ำจะหมดจากน่านน้ำนครศรีธรรมราช