พศ.สั่งฟันพระธุดงค์ปลอม เจอจับส่งตำรวจ แนะพระธุดงค์จริงต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าคณะปกครองในพื้นที่
จากกรณีประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับ มีพระธุดงค์ระบาดออกเรียไร่ บิณฑบาตเก้าโมงเช้ายันเที่ยง หวั่นเป็นมิจฉาชีพนั้น เมื่อวันที่ 20 ม.ค. นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวภายหลังการประชุมมส.ว่า ขณะนี้พศ.ได้ส่งส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา ออกตรวจตามที่พื้นที่ที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามา ซึ่งหากพบพระธุดงค์ ก็จะมีการตรวจสอบว่า ได้มีการขออนุญาตเจ้าคณะปกครองว่ามีจุดหมายปลายทางที่ไหน แล้วได้รายงานให้เจ้าคณะปกครองในพื้นที่ทราบหรือยัง หากพบว่า ไม่ได้ขออนุญาต ถือว่ามีความผิด และเมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีใบสุทธิ เป็นพระปลอม พศ.จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ถือว่าเป็นมิจฉาชีพออกหลอกลวงประชาชน
นายนพรัตน์ กล่าวต่อไป ตนอยากให้สังเกตพฤติกรรมของพระธุดงค์ หากเป็นพระธุดงค์จริง จะไม่อยู่ในพื้นที่นานเป็นสัปดาห์ โดยจะเข้าเมืองมาบิณฑบาตเพียงชั่วคราวเท่านั้น จะไม่อยู่นานเช่นนี้
ซึ่งขณะนี้ตนได้รับทราบจากประชาชนว่า พระเหล่านี้ ไม่มีพฤติกรรมเหมือนกันพระธุดงค์ที่อยู่ในสมณสารูป มีจริยาที่เหมาะสม นอกจากนี้ พศ.กำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลของพระทั่วประเทศ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบประวัติ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้ว 80 % ในขณะเดียวกัน ตนได้มีนโยบายการเก็บรวบรวมข้อมูลพระสงฆ์ที่บวชตั้งแต่ 3 พรรษาขึ้นไปก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการจัดเก็บ เนื่องจากปัจจุบันมีพระที่บวชชั่วคราวเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดปัญหาในการจัดเก็บข้อมูล ดังนั้น จึงให้เริ่มเก็บพระที่มีพรรษา 3 พรรษาขึ้นไปก่อน จากนั้นค่อยมาเก็บไล่ลงมาที่ 2 พรรษา 1 พรรษา ตามลำดับ
“หากเราตรวจสอบว่า เป็นพวกมิจฉาชีพ เราจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับพวกที่มาใช้ศาสนาหากินกับประชาชนและทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมจะต้องจับส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แต่ถ้าเป็นพระจริง ก็จะให้พระวินยาธิการดำเนินการ ตักเตือนและลงโทษตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ผมหวังว่า เมื่อระบบจัดเก็บข้อมูลพระสงฆ์เสร็จ จะทำให้การตรวจสอบข้อมูลพระสงฆ์ที่กระทำผิดง่ายขึ้น แต่ยอมรับว่า ปัญหาเหล่านี้คงไม่หมดไป เพราะมิจฉาชีพมักจะหาวิธีการใหม่ๆมาหลอกลวงประชาชน ดังนั้น ผมเน้นย้ำว่า เมื่อเห็นพระธุดงค์มีพฤติกรรมน่าสงสัย เราไม่ควรไปใส่บาตร เพื่อเป็นการตัดช่องทางทำมาหากินหากเป็นมิจฉาชีพ”ผอ.พศ.กล่าว