เสนอทบทวนตรึงดีเซล 30 บาทต่อลิตร

กรุงเทพ 17 ม.ค. – อากาศหนาวเย็นทั่วโลกและปัญหาน้ำท่วมในออสเตรเลียทำให้ความต้องน้ำมันเพื่อความอบอุ่น โดยเฉพาะดีเซลยังพุ่งต่อ ล่าสุดค่าการตลาดของไทย อยู่ในเกณฑ์ต่ำ เสนอ กบง.ควรให้อำนาจ รมว.พลังงานปรับกองทุนหนุนดีเซลเพื่อความรวดเร็ว ผู้ค้าจะได้ไม่ขาดทุน หรือทบทวนเพดาน 30 บาท ชี้เงินกองทุนน้ำมัน  5,000 ล้าน อุ้มได้ไม่ถึง 1 เดือน

น.ส.ทอแสง ไชยประวัติ ผู้จัดการแผนกวางแผนการพาณิชย์ บมจ.ไทยออยล์ จำกัด คาดว่าในสัปดาห์นี้อาจจะเห็นราคาน้ำมันดิบตลาดโลก
 
โดยเฉพาะตลาดเบรนท์ ลอนดอน ปรับถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เหตุจากอากาศหนาวเย็นทำให้ความต้องการน้ำมันเพื่อการอบอุ่นเพิ่มขึ้น  ในขณะที่ ปัญหาน้ำท่วมในออสเตรเลีย ทำให้การส่งออกถ่านหินเกิดปัญหา จีนจึงนำเข้าดีเซลเพื่อผลิตไฟฟ้าแทนถ่านหิน ประกอบกับปัญหาท่อส่งน้ำมันในอลาสก้ายังขัดข้อง และเมื่อดูค่าการตลาดน้ำมันของไทยทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซล   ยังต่ำอยู่ก็มีโอกาสที่ราคาขายปลีกของไทยสัปดาห์นี้อาจปรับขึ้นได้

นายอนุสรรณ์  แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากฯ กล่าวว่า ค่าการตลาดกลุ่มดีเซลขณะนี้เหลือเพียง 1.20 บาทต่อลิตร ผู้ค้ารับภาระขาดทุน

ดังนั้น หากรัฐบาลยังต้องการให้ดีเซลต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตรต่อเนื่อง ก็น่าจะเร่งนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาอุดหนุนโดยเร็ว ซึ่งกลไกที่ผ่านมาต้องเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง.ซึ่งล่าช้ามาก ผู้ค้าแบกรับภาระสูง ดังนั้น แนวทางน่าจะทำเหมือนในอดีต คือ  กบง.มีมติ ให้ อำนาจ รมว.พลังงาน เป็นผู้เห็นชอบการชดเชยในวงเงินครั้งละไม่เกิน 1.50 บาท/ลิตร แทนการเรียกประชุม กบง.ตามปกติ ซึ่งแนวทางนี้ทั้งผู้ค้าน้ำมันจะได้ไม่รับภาระขาดทุนและประชาชนก็ได้รับผลกดีจากนโยบายของรัฐ

นายอนุสรณ์ ยังคาดด้วยว่า เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้เข้ามาอุดหนุนดีเซล  5,000  ล้านบาท คงจะใช้ได้ไม่นานถึง 1 เดือน

  เพราะราคาตลาดโลกยังพุ่งต่อเนื่องล่าสุดดีเซลสิงคโปร์อยู่ที่ 108.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แนวทางที่จะไม่สร้างภาระต่อกองทุนฯมากนัก รัฐบาลน่าจะปล่อยให้ราคาดีเซลในประเทศปรับขึ้นตามต้นทุนที่แท้จริงเพราะ หากดูแนวโน้มราคาน่าจะอยู่ในเกณฑ์ 31-32 บาททต่อลิตร ซึ่งจะไม่กระทบต่อภาคขนส่งมากนัก เพราะหากไม่ดูรถบรรทุก หรือรถโดยสาร ส่วนใหญ่จะปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงไปใช้แอลพีจี-เอ็นจีวี เกือบหมดแล้ว จึงไม่น่าจะกระทบต่อราคาสินค้า อย่างไรก็ตามคาดว่าราค้ำมันตลาดโลกจะพุ่งสูงได้ไม่นานนัก เพราะความต้องการที่สูงขึ้นเกิดจากอากาศเย็นช่วงนี้ ประกอบกับกองทุนเก็งกำไรหรือเฮดจ์ฟันด์เข้ามาถือครองน้ำมันถึง 170 ล้านบาร์เรล โอกาสที่จะเทขายจึงสูงมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาอุดหนุนดีเซล 

ในส่วน บี 3 อัตรา 1.65 บาทต่อลิตร  บี 5  อัตรา 2.50 บาทต่อลิตร หรือประมาณ 3,237 ล้านบาทต่อเดือน ในขณะที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อวันที่ 11 มกราคม  2554  มีวงเงินรวม 27,617 ล้านบาท  โดยแนวทางหากรัฐไม่ยังคงนโยบายดีเซล 30 บาท    ก็อาจจะต้องเพิ่มวงเงินกองทุนน้ำมันดูแลจากเดิม 5,000 ล้านบาท หรือปรับลดภาษีน้ำมัน 1-2 บาทต่อลิตร หรือยกเลิกเพดานข้อกำหนด ดูแลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร. -สำนักข่าวไทย


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์